วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

TIPS รู้ก่อนเที่ยว ที่ดอยในวันออกพรรษา

ขึ้นเหนือไปที่เชียงใหม่กับเยี่ยงอย่างทำบุญวันออกพรรษา ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของชาวเชียงใหม่ แวะเที่ยวดอยอ่างขาง ซึ่งมีบรรยากาศดีตลอดทั้งปีตลอดจนสถานที่เที่ยวมากมายบนดอย

พระตำหนักดอยอ่างขาง




อยู่ในป่าเมเปิลบนเนินฝั่งกลับกันกับสโมสรอ่างขางติดกับสวนแปดสิบ ประเภทเป็นพระตำหนักหลังเล็ก ล้อมรอบไปด้วยป่าเมเปิลที่ใบมีสีสันแพรวพราวในแต่ละฤดูกาล บริเวณด้านหลังพระตำหนักเป็นป่าซากุระซึ่งจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว สามารถเดินเที่ยวชมได้แค่บริเวณภายนอกพระตำหนักเท่านั้น

สำหรับท่านที่เดินเที่ยวงานทำบุญวันออกพรรษาและชอบดอกไม้

โรงเรือนปลูกผักเมืองหนาว


เป็นโรงเรือนพลาสติกขนาดใหญ่  ตั้งอยู่ทางด้านหลังโครงการบริเวณทางออก ภายในโรงเรือน
ทำเป็นแปลงปลูกพืชผักเมืองหนาวหลายชนิด ด้านหลังของโรงเรือนเป็นโรงปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน ผลผลิตที่ได้ส่งขายที่ร้านจำหน่ายผลผลิตของโครงการหลวงอ่างขางบริเวณโรงเรือนไม้ในร่ม

TIPS รู้ก่อนเที่ยว
ที่พักมีให้เลือก 2 แบบ คือ
พักแบบปกติ บ้านพักในแผนฯ ซึ่งต้องจองกันแบบล่วงหน้ามากๆ เพราะถ้าในช่วงวันหยุดยาวๆ สถานที่พักอาจจะเต็มได้ โรงแรม หรือห้องเช่าของชาวบ้านที่มีให้บริการบริเวณจุดจอดรถก่อนทางเข้าโครงการหลวงฯ หรือ


   ถ้าชอบแนวผจญภัยนิดหน่อยก็ต้องแบบนอนเต็นท์ ซึ่งจุดกางเต็นท์ก็มีให้บริการอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือจุดของแผนหลวงฯ ซึ่งอยู่ก่อนถึงทางเข้าประมาณ 3 กิโลเมตร และอีกจุดหนึ่งเป็นของหน่วย อพปร. เป็นลานกว้างปรับระดับดินให้เป็นแนวราบ ข้อดีของจุดนี้คือเมื่อคุณตื่นนอนคุณก็สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแบบพาโนรามาสวยดีทีเดียว มีน้ำอุ่นให้บริการ จะอยู่เลยขึ้นไปอีกประมาณ  4-5 กิโลเมตร

การเดินทางไปทำบุญวันออกพรรษา
รถยนต์ส่วนตัว จากเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสาย 107 เชียงใหม่-ฝาง เป็นเส้นทางผ่านแม่ริม แม่แตง เชียงดาว ทางแยกเข้าดอยอ่างขางที่ กิโลเมตรที่ 137 มีระยะทางถึงอ่างขางประมาณ 25 กม. เป็น
เส้นทางที่สั้นแต่ชันมาก รถเก๋งและรถทุกชนิดขึ้นได้แต่ต้องขับด้วยความระมัดระวังอย่างมาก
รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถออกจากสถานีหมอชิต 2 (จตุจักร) กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มี 2 เที่ยว คือเวลา 9.00 น. และ 20.00 น. ลงที่สถานีขนส่งช้างเผือก ต่อรถเอกชนสายเชียงใหม่-ฝาง หรือ เชียงใหม่-ท่าตอน ที่สถานี แล้วลงที่ปากทางขึ้นดอยอ่างขาง หน้าวัดหาดสำราญ กิโลเมตรที่ 137 ค่าโดยสาร 100 บาท  ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นให้ว่าจ้างสองแถว รถตู้ หรือรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยอ่างขางอีกทีหนึ่ง หรือเดินทางด้วยรถตู้ประจำทางจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ไปยังอ่างขาง ที่สถานีขนส่งช้างเผือกก็ได้ สายเชียงใหม่-ท่าตอน VIP 150 บาท ธรรมดา 130 บาท

Read More


วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ร้านแป๊ะก๋วยเตี๋ยวปู ตลาด 100 ปี บางนกแขวกทำบุญวันออกพรรษา

ออกพรรษาที่ใกล้เข้ามาจะตรงกับวันที่ 19 เดือนตุลาคม 2556 เป็นวันเสาร์

เป็นวันที่หลายท่านร่วมใจทำบุญวันออกพรรษาซึ่งแล้วแต่บางท่านอาจจะไปทำบุญที่วัดหรือบางท่านอาจจะกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวอยู่นั้นเอง วันนี้ทีมงานเลยหา สถานที่ท่องเที่ยวมาฝากกัน วันออกพรรษาต้องบอกก่อนเลยว่า รถติดอย่างแน่นอน แนะนำให้จองโรงแรมไว้ด้วยนะ

ตลาด 100 ปี บางนกแขวกสถานที่เที่ยวทำบุญวันออกพรรษา



หากท่านที่กำลังเดินเล่นหรือไปทำบุญแถว ๆ ตลาดน้ำอัมพวา  ตลาด 100 ปี บางนกแขวกอยู่ไม่ไกลกันมากเท่าไร

ตลาด 100 ปี บางนกแขวก
ตั้งอยู่ที่ปากคลองบางนกแขวก อ.บางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นตลาดน้ำดั่งเดิมที่มีอายุกว่า 100 ปี เป็นหนึ่งในตลาดไม้ห้องแถวริมแม่น้ำแม่กลอง และเชื่อมต่อไปยังคลองดำเนินสะดวก การค้าขายในสมัยก่อนของที่นี่จึงเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้ามากมาย อยู่ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาเพียง 5 กิโลเมตร แต่ความเรียบง่ายและกลิ่นไอของความโบราณของที่นี่ยังคงหลงเหลือให้เราเห็นอยู่บ้าง แม้ไม่มากและคึกคักเช่นตลาดน้ำอัมพวา

ของอร่อยและร้านที่แนะนำในออกพรรษานี้



ร้านแป๊ะกวยเตี๋ยวปู ตั้งอยู่ทางเข้าด้านหน้าตลาดฝั่งถนน น้ำซุปหวานหอม ชามใหญ่ เนื้อปูเยอะอัดแน่นพูนชาม สำหรับคนที่อยากหนักท้องสักหน่อยก็มี กระเพราปูราดข้าว และข้าวผัดปู ให้เลือกชิมกันด้วย ร้านเปิดขาย เวลา 08.00 -15.30 น. ต่อด้วย



ร้านเฮียเกียรติ ข้าวแห้ง เจ้าดั่งเดิม ที่มีเครื่องเคียงให้เลือกใส่ 5 อย่างด้วยกัน คือ เนื้อไก่ กระเพาะหมู กระดูกหมู หมูหวาน และเนื้อปลา รสชาติอร่อย ทำแบบสูตรโบราณแท้ๆ นั่งทานกันริมแม่น้ำได้บรรยากาศวันวานดีนักแล นอกจากนี้ก็ยังมี ร้านผัดไทกุ้งสด ที่กุ้งตัวใหญ่มาก ร้านข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายขนมหวาน เปิดขายเป็นท่อนตลอดทางเดิน

หากท่านที่กำลังหาสถานที่ทำบุญวันออกพรรษาอยู่พลาดไม่ได้เลยกับสถานที่เที่ยวที่เราแนะแนวไปให้ในวันนี้ อย่างที่บอกว่า มันอยู่ไม่ไกลจากอัมพวามากนักเท่าไร หากท่านที่สนใจไปลองดูนะครับ พาเพื่อน ๆ ไปกันเยอะๆ

ขอขอบพระคุณภาพ สวยๆและบทความดี ๆ จาก คู่หูเดินทาง
Read More


ทำบุญวันออกพรรษาที่พิมาย

ขึ้นไปทางภาคอีสานเที่ยวเพื่อทำบุญวันออกพรรษา


กับสถานที่ที่ชี้ทางวันนี้คือ ปราสาทหินพิมาย สำหรับท่านที่สนใจไปไม่ยากอย่างแน่นอน ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯเพียงแค่ 259กิโลเมตรเท่านั้นเอง อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ตั้งอยู่ที่ ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา



ซึ่งห่างจากตัวเมืองโคราชไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 115 ไร่ ซึ่งเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนานิกายมหายานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีอายุราว 1,000 ปี เป็นปราสาทขอม ซึ่งหมายถึง ศาสนสถาน, วัด หรืออาคารเรือนยอดสำคัญที่ใช้ประดิษฐานรูปเคารพ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า



ทำบุญวันออกพรรษากับที่นครราชสีมา

มีสถานมากมายในการทำบุญวันออกพรรษาที่ได้รวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ไปเที่ยวกัน สำหรับออกพรรษาจะตรงกับวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ซึ่งเป็นวันเสาร์



ปราสาทหินพิมาย

ในปราสามหินพิมายมีโบราณสถานอยู่เหลือแหล่ นอกจากที่เราจะทำบุญวันออกพรรษาที่วัดนั้นแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายเลยทีเดียว



พลับพลา
ภายในลานชั้นในทิศตะวันออกของปราสาทประธาน มีฐานอาคารก่อด้วยหินทราย รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุม เว้นช่องว่างตรงกลางเป็นช่องสี่เหลี่ยม ด้านที่หันหน้าเข้าสู่ปราสาทประธานทำเป็นมุขยื่นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สันนิษฐานว่า อาคารหลังนี้คงใช้ประโยชน์ในพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง



หอพราหมณ์
เป็นอาคารก่อด้วยหินทรายและศิลาแลง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกับปราสาทหินแดง ได้ค้นพบศิวลึงค์ขนาดย่อมทำด้วยหินทราย เชื่อว่าอาคารหลังนี้น่าจะเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์

ปรางค์หินแดง
สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางด้านขวาของปรางค์ประธาน มีมุขยื่นออกไปทั้งสี่ทิศ เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือมีทับหลังทรายจำหลักภาพเล่าเรื่องมหาภารตะ ตอน กรรณธล่าหมูป่า

ปรางค์พรหมทัต
ตั้งอยู่บากหน้าของปราสาทประธานทางด้านบุพทักษิณ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประตูเป็นมุขยื่นสี่ทิศ ภายในองค์ปรางค์พบประติมากรรม 2 ชิ้น คือ ประติมากรรมรูปบุคคลขนาดใหญ่นั่งขัดสมาธิสลักด้วยหินทราย สันนิษบานว่า เป็นรูปของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ชาวบ้านมักเรียกว่า ท้าวพรหมทัต ส่วนอีกรูปหนึ่งเป็นรูปสตรีนั่งคุกเข่า สลักด้วยหินทราย ส่วนศรีษะและแขนหักหายไป เชื่อว่าเป็นรุปของพระนางชัยราชเทวีมเหสี ชาวบ้านเรียกตามนิยายพื้นบ้านว่า นางอรพิม ปัจจุบันประติมากรรมทั้ง 2 นี้ จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย



เป็นอย่างไรบ้างสำหรับสถานที่เที่ยวทำบุญวันออกพรรษา หากท่านใดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้แนะนำกันมาได้เลย หากท่านที่มีเวลาว่างให้ลองหาสถานที่อื่นดู

Read More


วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

พาเที่ยวน่านวันออกพรรษา

คุณกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวกันอยู่ไหม สำหรับวันออกพรรษานี้


แน่นอนว่่าเราก็เช่นกันวันนี้เลยนำสถานที่ท่องเที่ยววันออกพรรษามาฝากเพื่อน ๆ กัน วันออกพรรษาเป็นอีกหนึ่งวันหยุดที่แสนจะสบาย แน่นอนว่าเราต้องมากาสถานที่ท่องเที่ยวกัน

เริ่มจากสถานที่แรกกันเลย วัดหัวข่วง

        ตั้งอยู่ใกล้หอคำ หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน มีวิหาร และเจดีย์ มีลักษณะศิลปกรรมแบบท้องถิ่นล้านนา สกุลช่างเมืองน่าน ฝีมือประณีตงดงาม วัดนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด มีเพียงหลักฐานว่าได้รับการบูรณะในราว พ.ศ. 2425  โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าเมืองน่าน และต่อมาราวปี พ.ศ. 2472 ในสมัยเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองน่าน องค์สุดท้าย วัดนี้มีวิหารที่สวยงาม ปัจจุบันเป็นอาคารทรงจั่ว โดดเด่นที่หน้าบันประดับลวดลายไม้จำหลักรูปพรรณพฤกษาที่ประณีตงดงาม ซุ้มประตูหน้าต่าง ประดับลายปูนปั้นรูปใบผักกาดแบบศิลปะตะวันตก เป็นวิหารผีมือช่างเมืองน่านที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ในวัดยังมีหอไตรเก่าลักษณะคล้ายวิหาร แต่มีขนาดเล็ก หน้าบันและฝาชั้นบนประดับลายสลักสวยงาม ตั้งอยู่ใกล้องค์เจดีย์ เจดีย์วัดหัวข่วง เป็นเจดีย์ทรงประสาท หรือเรือนทอง ศิลปะล้านนา ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริด ลักษณะของรูปทรง โดยส่วนรวมคล้ายกับเจดีย์วัดโลกโมลี ที่เชียงใหม่ ในวันออกพรรษาที่จะมาถึงนี้ทางวัดได้จัดประเพณีทำบุญวันออกพรรษาอีก
สถานด้วย

สำหรับท่านที่ต้องการเที่ยวจังหวัดน่านยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น






เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ทางทีมงานเราได้แนะนำกันเข้ามา วันออกพรรษาเป็นวันหยุดของครอบครัวนะครับ หาสถานที่ท่องเที่ยวกันไปนะครับ


Read More


วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ทริปเกาะล้านวันหยุดนี้

ใกล้เข้ามาแล้วนะครับกับงานทำบุญวันออกพรรษาที่หลายท่านกำลังรอ


วันนี้เรามาหาสถานที่ท่องเที่ยวทำบุญวันออกพรรษา เลยเอาทริปการเที่ยวเกาะล้านมาฝากเพื่อน ๆ กันนะครับ พัทยาหรือเกาะล้านเป็นสถานที่ท่องเที่ยววันหยุดที่อยู่ไม่ไกลจาก กรุงเทพฯมากนักเท่าไรจึงมีผู้คนนิยมเที่ยวกันมากในวันหยุดที่แสนจะสั้น

วิธีการไปเกาะล้านในวันออกพรรษานั้นแนะนำให้ไปรถตู้ครับ เพราะหากไปรถส่วนตัวนั้นมีผู้คนมากมายที่ไปทำบุญวันออกพรรษากันมากมาย สิ่งที่จะตามมาคือรถติดอย่างแน่นอนคับ



สัมผัสกับบรรยากาศแห่งท้องทะเลที่สดใสและ        สวยงามแห่งหนึ่งของทางภาคตะวันออกของไทย เกาะล้าน ตั้งอยู่ในแนวขนานกับหาดพัทยา         อยู่ห่างจากอ่าวระยะทาง 7.5 กิโลเมตร ตัวเกาะกว้าง 2 กิโลเมตร ยาว 5 กิโลเมตร เกาะล้านมี        หาดทรายขาวนวลเม็ดทรายละเอียด มีแนวปะการังมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือหาง        ยาวท้องกระจกหรือดำน้ำดูปะการังได้ ซึ่งมีหาดทรายที่เลื่องชื่อ ได้แก่ หาดตาแหวน อยู่ทาง        เหนือของเกาะ มีหาดทรายยาวประมาณ 750 เมตร เป็นหาดที่มีร้านค้าต่างๆ มากมาย เรือ            ท่องเที่ยวมักมาจอดบริเวณนี้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีหาดทรายขาวและสวยงาม หาดแหลม        เทียน และหาดแสม อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะล้าน หาดทรายยาวประมาณ 700 เมตร         และ 100 เมตร ตามลำดับจัดเป็นหาดที่สวยงามและน่าประทับใจอีกแห่งหนึ่งของเกาะ             โดยเฉพาะบริเวณแหลมเทียน มีความเงียบสงบและสะอาด ปัจจุบันมีร้านค้าไว้บริการ            นักท่องเที่ยวอยู่บ้าง หาดตาพัน อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ หาดยาวประมาณ 500 เมตร บน        หาดมีเพิงพักชั่วคราว สำหรับนักท่องเที่ยวเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุด เรือท่องเที่ยว        มัก มาจอดบริเวณหน้าหาดตลอดไปจนถึงแหลมเทียนและหมู่เกาะใกล้เคียง ซึ่งจะมีปะการังอยู่        โดยตลอด หาดนวล อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ ชายหาดยาวประมาณ 450 เมตร เป็นหาดที่มี            โรงแรมตั้งอยู่ มีนักท่องเที่ยวมาพักมากพอสมควรบริเวณนี้เป็นแหล่งดูปะการังอีกแห่งหนึ่ง         นักท่องเที่ยวนิยมดูปะการัง จัดเป็นหาดที่น่าสนใจอีกหาดหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังมี หาดแหลม        หัวโขนด้านหน้า-หลัง แหลมทองหลาง แหลมถ้ำแร่ ฯลฯ ที่เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ             สำหรับกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นกันที่เกาะล้าน ได้แก่ เล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นเรือลาก        ร่มชูชีพ เรือสกี เรือสกู๊ดเตอร์ เป็นต้น

เป็นอย่างไรบ้างกับทริปการทำบุญวันออกพรรษาของทางเราที่พาท่านเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
Read More


กินเจก่อนทำบุญวันออกพรรษา

นับว่าเป็นเรื่องที่ดีก่อนงานบุญทำบุญวันออกพรรษา


นั้นคือการกินเจที่กำลฮิตมากในขนาดนี้ แน่นอนว่าหลายท่านก็กำลังกินเจกันอยู่อย่างแน่นอน เอาละหลายคนคงทราบกันแล้วว่ากินเจกินทำไม ทำไมต้องกิน จริง ๆ แล้ว เราสามารถกินเจได้ตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้
ตอบคำถามเกี่ยวกับการทานอาหารเจ 


1.ทานอาหารเจควรท่านอย่างไร?
เลือกกินให้ครบ 5 หมู่ในทุกๆ มื้อ หลักนี้สำคัญมากและขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะทานอาหารปกติ หรือทานอาหารเจ เราควรคำนึงถึงสัดส่วนอาหารในแต่ละหมู่ให้ครบในทุกๆมื้อ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป หากใครกลัวว่าทานเจแล้วไม่ละเว้นการทานเนื้อสัตว์จะได้โปรตีนไม่เพียงพอ ไม่ต้องกังวลนะคะ ให้เน้นทานพืชตระกูลถั่ว เพื่อเป็นแหล่งโปรตีน

2.ตอนกินเจควรเลือกข้าวอย่างไร
เลือกกินข้าวหรือแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย ธัญพืชต่าง ๆ ร่างกายใช้พลังงานในการย่อยออกมาเป็นแป้งที่พร้อมดูดซึม ซึ่งน้ำตาลไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับปริมาณที่เท่ากันของแป้งขัดขาว

3.กินเจจำเป็นไหมที่กินแต่ของทอด
เลือกกินของนึ่ง, ต้ม, ตุ๋น และเลี่ยงของทอดและผัด เพราะช่วยให้เลี่ยงการกินน้ำมัน ซึ่งมีไขมันอยู่สูง ข้อนี้สำคัญมากๆสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และไม่อยากได้ไขมันส่วนเกินแถมมาในช่วงเทศกาลกินเจ

4.เลือกกินผักอย่างไร
เลือกกินผักใบมากกว่าพืชหัว เพราะผักใบมีคาร์โบไฮเดรตที่น้อยกว่าพืชหัวมาก ดังนั้น การกินผักใบจะทำให้เราได้พลังงาน และปริมาณแป้งน้อยกว่าจึงไม่ทำให้อ้วน





5.กินเจอย่างไรไม่ให้ด้วน
กินหวานให้น้อยลง ไม่ใช่ว่าเมื่อคุณกินเจแล้ว จะสามารถกินขนมหวานได้เต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารเจหรือไม่เจ ถ้ามีความหวานและผสมน้ำตาลอยู่มากก็อ้วนได้ไม่ต่างกัน

6.ควรกินผลไม้หลายๆ สี ทั้งแดง, เขียว, ขาว, เหลือง, ดำ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลายและเพียงพอ รวมไปถึงมีไฟเบอร์ที่จะช่วยระบบขับถ่าย ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียและสารพิษตกค้างออกมา ส่วนใครที่มักมีปัญหา กินเจแล้วหิวบ่อย ให้หาแอปเปิ้ลเขียว หรือผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยติดตัวไว้ ได้รองท้องแล้ว ยังได้ประโยชน์อีกมากมายเลยล่ะ

7.ควรกินพืชตระกูลถั่วด้วย เพราะเป็นแหล่งโปรตีน มีธาตุเหล็กสูง ช่วยสลายคอเลสเตอรอล ปัจจุบันถั่วถูกแปลงโฉมให้อยู่ในรูปของโปรตีนเกษตร ที่มีความคล้ายคลึงกับอาหารจริง ๆ แล้วแถมยังไม่มีไขมันด้วย แต่แนะนำให้เลี่ยงพวกถั่วทอดไว้ เดี๋ยวจะได้ไขมัน และคอเลสเตอรอลเพิ่มได้โดยไม่รู้ตัว


8.ควรกินให้หลายหลาย หลักการเดิมๆที่ผู้เขียนเองมักเตือนทุกๆ ท่านอยู่บ่อยๆ ว่าไม่ควรทานอะไรซ้ำๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมของอันตราย โดยเฉพาะอันตรายทางเคมีที่เรามองไม่เห็น และสะสมในร่างกายจนเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ โดยเฉพาะอาหารเจที่มีไขมันสูง บรรจุในกล่องโฟม อาหารปิ้ง ย่าง หรือทอด

หลังจากเทศกาลการกินเจแล้วพลาดไม่ได้เลยต่อด้วยงานทำบุญวันออกพรรษาที่หลายคนกำลังรอเคยกันอยู่ทีเดียว
Read More


วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตักบาตรสองแผ่นดินในการทำบุญวันออกพรรษา

สวัสดีวันออกพรรษาที่ใกล้จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้แล้วสินะครับ ซึ่งวันออกพรรษาคือวันที่พระสงฆ์ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดเป็นเวลา2เดือนเต็ม โดยเป็นการจำพรรษาโดยยึดหลักคำสอนทางศาสนาและปฏิบัติตนตลอดระยะเวลา 3 เดือนเลยทีเดียว

ทำบุญวันออกพรรษา มีประเพณีอยู่มากมาย โดยจะแตกต่างในเรื่องของสถานที่และท้องถิ่น รวมแม้กระทั้งวัฒนธรรม


ตักบาตรสองแผ่นดิน เป็นประเพณีของทางภาคเหนือของประเทศไทยที่ยึดหลักคำสั่งสอนทางศาสนาพุทธและขนบธรรมเนียมของรุ่นผู้ใหญ่


เนื่องในวันออกพรรษา  เทศบาลตำบลแม่สาย จัดให้มีการทำบุญตักบาตรสองแผ่นดิน (ตักบาตรเทโว)  เหนือสุดในสยาม เพื่อเป็นการระลึกถึงหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์ประเพณีที่ดีงามของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวแม่สาย และชาวเมียนม่าร์ ในสองฝั่งประเทศ โดยกำหนดจัดงานทำบุญตักบาตรเทโวขึ้น บริเวณเชิงดอยวัดพระธาตุดอยเวา (หน้าด่านพรมแดน) เรื่อยไป จนถึงมูลนิธิกวงเม้งแม่สาย (ถนนพหลโยธินด้านทิศตะวันตก) ตั้งแต่เวลา 04.00 น.เป็นต้นไป
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน เข้าร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
(หมายเหตุ : การแต่งกายให้สวมใส่ชุดสุภาพเรียบร้อย หรือชุดพื้นเมืองประจำท้องถิ่น หรือชุดประจำชนเผ่า ห้าม ผู้หญิง แต่งชุดรัดรูป นุ่งสั้น เว้าแหว่ง หรือชุดไม่สุภาพในวันดังกล่าว)
ติดต่อ เทศบาลตำบลแม่สาย
ถนนพหลโยธิน ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 57130
โทร 053-731288  05-3 732828-9
 

สำหรับท่านที่เดินทางไปทำบุญวันออกพรรษาที่ภาคเหนือของประเทศไทยให้ตรวจสอบสภาพอากาศและเตรียมของไปให้ดี ๆ นะครับ และร่วมกันเข้าวัดทำบุญเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของไทย
Read More


วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ประเพณีการแข่งเรือยาวออกพรรษาไทยลาว

ประเพณีการแข่งเรือยาวออกพรรษาไทยลาว ตีช้างน้ำนอง (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ประจำปี 2556 ทวันออกพรรษา


วันออกพรรษาที่ใกล้เข้ามาแล้วหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าจะไปเที่ยวไหนดีวันนี้เลยพากันไปที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคอีสานของประเทศไทยนั้นเอง

จังหวัดมุกดาหารเป็นจังหวัดชายแดนแห่งสำคัญ เป็นที่ตั้งของสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ซึ่งเปรียบเป็นประตูที่เปิดไปสู่กลุ่มประเทศอินโดจีน คือ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและประเทศเวียดนาม ที่นับวันจะทวีความสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากขึ้นมุกดาหารโดดเด่นในด้านความหลากหลายของเชื้อชาติ เนื่องจากพลเมืองของจังหวัดประกอบด้วยชนพื้นเมืองต่างๆ หลากหลายเผ่า มุกดาหารจึงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันงดงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นมากมายนอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและในน้ำ จึงนับเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้ามจังหวัดมุกดาหารมีเนื้อที่ประมาณ 4,340 ตารางกิโลเมตร หรือ 2.7 ล้านไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 52 ของประเทศ สภาพพื้นที่ทางทิศเหนือและทิศใต้เป็นที่ราบสูง ทางทิศตะวันตกเป็นเทือกเขาภูพานมีป่าไม้หนาแน่น ส่วนทิศตะวันออกเป็นที่ราบสลับป่าไม้ และมีแม่น้ำโขงไหลผ่านเป็นระยะทางประมาณ 72 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดมุกดาหารเริ่มก่อตั้งเป็นเมืองขึ้นในราวปี พ.ศ. 2310 สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา เมื่อเจ้ากินรี บุตรชายของเจ้าจันทรสุริยวงศ์ ผู้ปกครองบ้านหลวงโพนสิน ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณพระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศ สปป. ลาวในปัจจุบัน ได้ข้ามลำน้ำโขงมาสร้างเมืองขึ้นที่บริเวณปากห้วยมุก แล้วตั้งชื่อเมืองว่า “มุกดาหาร” ต่อมาในปี พ.ศ. 2321 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เจ้ากินรีเป็น “พระยาจันทรศรีสุราช อุปราชามัณฑาตุราช” ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นคนแรกของเมืองมุกดาหารต่อมาเมืองมุกดาหารมีฐานะเป็นเมืองขึ้นของมณฑลอุดร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2450 มีการปรับเปลี่ยนระบบการปกครอง มณฑลอุดรถูกเปลี่ยนเป็น “จังหวัดอุดร” เมืองมุกดาหารก็ถูกผนวกเข้าเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครพนม ชื่อว่า “อำเภอเมืองมุกดาหาร” จนถึงปี พ.ศ. 2525 รัฐบาลจึงได้ออกพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดมุกดาหารขึ้นเป็นจังหวัดที่ 73 ของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่ 17 ของภาคอีสานปัจจุบันจังหวัดมุกดาหารแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอคำชะอี อำเภอดอนตาล อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอดงหลวง อำเภอหว้านใหญ่ และอำเภอหนองสูง

         การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร ขอเชิญร่วมงาน "การแข่งขันเรือยาวออกพรรษาไทย-ลาว ประจำปี 2556" ในระหว่างวันที่ 23-31 ตุลาคม 2556 ณ ริมฝั่งโขง หน้าตลาดอินโดจีน จังหวัดมุกดาหาร

          สำหรับกิจกรรมภายในงาน ได้แก่ การชมพิธีตีช้างน้ำนอง บวงสรวง สักการะสิ่งสักสิทธิ์ พระแม่คงคา เทวดา พญานาค ในลำน้ำโขง เพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข เชื่อมสัมพันธไมตรีจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต, ชม ชิม ช้อป ในมหกรรมอาหารอินโดจีนที่ตลาดอินโดจีนริมฝั่งแม่น้ำโขง, ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง 8 เผ่ามุกดาหาร, การแสดงจากสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และการประกวดกองเชียร์เรือยาว เป็นต้น

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองมุกดาหาร โทรศัพท์ 0 4261 1027 หรือ ททท.สำนักงานนครพนม โทรศัพท์ 0 4251 3490-1

เรียกได้ว่าเป็นประเพณีงานทำบุญวันออกพรรษาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากมีการถ่ายทอดสดอีกด้วยและอีกมากมายวันมุกดาหาร ซึ่งเป็นจังหวัดที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับวันออกพรรษา 



Read More


ประเพณีโฮมบุญออกพรรษา แห่กระธูป ประจำปี 2556 จังหวัดชัยภูมิ

ประเพณีทำบุญวันออกพรรษาที่ จังหวัดชัยภูมิ


ดินแดนแห่งทุ่งดอกกระเจียวงาม สายน้ำตกชุ่มฉ่ำยามหน้าฝน ผืนป่าอันกว้างใหญ่อุดมที่ภูเขียวแหล่งรวมความหลากหลายของธรรมชาติ ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นอย่างมอหินขาวเรียกได้ว่าจังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวเด่นล้ำไม่น้อยหน้าใครในภาคอีสาน
         จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา จัดงานบุญยิ่งใหญ่ "ประเพณีโฮมบุญออกพรรษา แห่กระธูป" ในระหว่างวันที่ 13-17 ตุลาคม 2556 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ

          งานบุญเทศกาลทำบุญวันออกพรรษา "ประเพณีโฮมบุญออกพรรษา แห่กระธูป" ถือเป็นงานที่ส่งเสริมความสามัคคีในชุมชน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดชัยภูมิ ภายในงานมีกิจกรรมการชมขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่และอลังการ รวมทั้งการประกวดต้นกระธูปที่สูงและใหญ่ที่สุด สร้างโดยชาวบ้านอำเภอหนองบัวแดง รวมทั้งมีการจัดแต่งตามสไตล์ที่หลายหลากตามแต่ละพื้นที่ อีกทั้งกิจกรรมการแสดงดนตรีพื้นบ้านและมหรสพมากมาย รวมถึงการแสดงและจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองชัยภูมิอีกด้วย

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ว่าการอำเภอหนองบัวแดง โทรศัพท์ 0 4487 2123, 08 6879 0287 หรือ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทรศัพท์ 0 4421 3030, 0 4421 3666


เกร็ดความรู้ "ประเพณีบุญแห่กระธูป"

ในวันออกพรรษา ชาวพุทธจะถวายการสักการะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากโปรดพุทธมารดา ชาวพุทธทั้งหลายต่างเฉลิมฉลอง และในกาลนี้ ชาวพุทธในภาคอีสาน โดยเฉพาะชาวอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ได้จัดทำต้นหระธูปโดยการนำธูปพันด้วยกระดาษสีให้เป็นลวดลายต่างๆ แล้วประกอบเป็นต้น ร่วมสมโภชและนำไปจุดยังวัดต่างๆ ในการจัดทำกระธูปครั้งแรกเริ่มจัดทำที่บ้านราษฎร์ดำเนินโดยทำต้นกระธูปและจัดให้มีมหรสพสมโภชก่อนวันออกพรรษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 และเมื่อปี พ.ศ. 2545 อำเภอหนองบัวแดงได้เล็งเห็นถึงคุณค่าของประเพณีแห่กระธูปจึงได้จัดให้ชุมชนและวัดต่างๆ ที่เคยมีการทำต้นกระธูป และที่ยังไม่เคยทำต้นกระธูปให้ร่วมกันประดิษฐ์ต้นกระธูป  เพื่อเป็นการสืบสานประเพณี  และเป็นหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอหนองบัวแดง
"ประเพณีแห่กระธูป" ที่ตำบลหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ  ในประเพณีบุญออกพรรษาของทุกปี ชาวบ้านจะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกระธูปโดยจะตีเกราะเคาะขอลอ ให้ชาวบ้านออกไปรวมตัว ณ จุดนัดหมาย (อาจเป็นศาลากลางบ้านหรือบ้านผู้ใหญ่บ้าน) ไปพันกระธูป  ซึ่งกว่าจะเป็นธูปจุดไฟได้ต้องผ่านกระบวนการยาวนานพอสมควร เพราะมันไม่ใช่กระธูปหรือธูปที่วางขายตามตลาด แต่มันเกิดมาจากการขยี้เอามาจากกาบมะพร้าวจนร่วงออกมาเป็นผง แล้วพันด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หุ้มอีกทีด้วยกระดาษสีหรือกระดาษแก้วหลากสีสัน  ก่อนที่จะนำไปมัดเข้ากับดาวก้านตาล(สานจากใบตาลหรือใบลาน) จากนั้นจึงนำไปมัดห้อยกับก้านธูปที่เป็นเสมือนคันเบ็ด ทำไว้มาก ๆ เสร็จแล้วจึงจะนำเข้าไปเสียบเข้าไปรูรอบปล้องไม้ไผ่ ทำเป็นชั้นขึ้นไปเหมือนฉัตร ประดับตกแต่งงดงาม ก่อนที่จะนำออกไปจุดในวันเวียนเทียนออกพรรษา
ความร่มเย็นอันยิ่งใหญ่ของ กระธูป สัญลักษณ์แทนต้นหว้า ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชมพูทวีป ถูกบันทึกไว้ในหนังสือฎีกาพระมาลัยสูตร ความว่า ลักษณะของต้นธูปมีความยาวประมาณ 50 โยชน์ มีกิ่งใหญ่ 4 กิ่ง แผ่ออกไปใน 4 ทิศทาง กว้างเป็นปริมณฑลได้ 100 โยชน์ หมายถึง พระพุทธศาสนานี้ เป็นร่มเย็นแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เปรียบเอา ต้นธูปนี้ จุดแล้วย่อมส่งกลิ่นหอมฟุ้งขจรขจายไปยังทิศต่าง ๆ กลิ่นหอมนี้ ย่อมเป็นที่ชื่นใจแก่มนุษย์ทั้งปวงที่ได้สัมผัสกลิ่นย่อมเกิดปีติและความสุขความเบิกบาน คุณค่าทางจิตใจ ประดิษฐ์ขึ้นง่าย ๆ จากวัสดุภายในท้องถิ่น ประกอบด้วย ขุยมะพร้าว ใบอ้ม ใบเนียม โดยนำใบไม้ทั้ง 2 ชนิด มานึ่งแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาบดอีกครั้งจะได้ฝุ่นไม้ที่มีกลิ่นหอมแล้วจึงนำไปผสมกับขุยมะพร้าวห่อด้วยกระดาษให้ได้รูปทรงยาวเหมือนธูป นำกระดาษสีมาประดับตกแต่งลวดลายให้สวยงาม ส่วนใหญ่นิยมเป็นลายไทยเช่นเดียวกับลายมัดหมี่ แล้วนำธูปที่มัดติดกับดาวซึ่งทำจากใบลานมามัดติดกับคันไม้ไผ่ลักษณะคล้ายคัดเบ็ด แล้วนำไปเสียบไว้กับแกนไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ ความสูงประมาณ 3-5 เมตร รูปทรงคล้ายฉัตรก่อนจะนำไปแห่และจุดไฟบูชา พร้อมกันนี้ให้เอาลูกดุมกา ลักษณะคล้ายส้มแต่มีเปลือกแข็งมาผ่าเป็น 2 ซีก ใส่น้ำมันพืชลงไปแล้วควั่นด้ายเป็นรูปตีนกาเพื่อจุดไฟให้แสงสว่างใต้ต้นกระธูป
งานบุญจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าด้วยการทำบุญตักบาตร นำขบวนแห่ต้นกระธูปวนรอบตลาดในเขตเทศบาลตำบลหนองบัวแดง จากนั้นนำต้นกระธูปไปตั้งสมโภชน์ที่วัดบ้านราษฏร์ดำเนิน บริเวณร้านประทีปหน้าพระอุโบสถ ลักษณะของร้านเป็นสี่เสาทำด้วยไม้ไผ่สูงประมาณ 1 เมตร พื้นร้านจะสานเป็นตาสี่เหลี่ยมแซมด้วยกาบกล้วย เสาแต่ละต้นถูกประดับประดาด้วยต้นกล้วย ต้นอ้อย ต้นกระธูป และไต้น้ำมัน
ในตอนกลางคืนจะมีการแสดงฟ้อนรำ การละเล่นของแต่ละหมู่บ้าน ควบคู่ไปกับ การจุดกระธูปบูชาพระรัตนตรัยเป็นเวลา 3 คืน ได้แก่ ขึ้น 14 ค่ำ ชาวบ้านเรียกว่า จุดไต้น้ำมันน้อย ขึ้น 15 ค่ำ เรียกว่า จุดไต้น้ำมันใหญ่ และคืนข้างแรม 1 ค่ำ เรียกว่า ไต้น้ำมันล้างหางประทีป
**ต้นกระธูปทุกต้น จะได้นำไปถวายวัดในพื้นที่ อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เนื่องในวันออกพรรษา ของทุกปี   เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และมีกิจกรรมเวียนเทียนและต้นกระธูปด้วย

จังหวัดชัยภูมิ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่จัดงานประเพณีทำบุญวันออกพรรษาที่ใหญ่ไม่แพ้ที่อื่นเลยก็ว่าได้ หากท่านใดที่จะไปเที่ยวก็ลองหาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดดูซึ่งมาอยู่มากมาย
Read More