วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

TIPS รู้ก่อนเที่ยว ที่ดอยในวันออกพรรษา

ขึ้นเหนือไปที่เชียงใหม่กับเยี่ยงอย่างทำบุญวันออกพรรษา ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของชาวเชียงใหม่ แวะเที่ยวดอยอ่างขาง ซึ่งมีบรรยากาศดีตลอดทั้งปีตลอดจนสถานที่เที่ยวมากมายบนดอย

พระตำหนักดอยอ่างขาง




อยู่ในป่าเมเปิลบนเนินฝั่งกลับกันกับสโมสรอ่างขางติดกับสวนแปดสิบ ประเภทเป็นพระตำหนักหลังเล็ก ล้อมรอบไปด้วยป่าเมเปิลที่ใบมีสีสันแพรวพราวในแต่ละฤดูกาล บริเวณด้านหลังพระตำหนักเป็นป่าซากุระซึ่งจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว สามารถเดินเที่ยวชมได้แค่บริเวณภายนอกพระตำหนักเท่านั้น

สำหรับท่านที่เดินเที่ยวงานทำบุญวันออกพรรษาและชอบดอกไม้

โรงเรือนปลูกผักเมืองหนาว


เป็นโรงเรือนพลาสติกขนาดใหญ่  ตั้งอยู่ทางด้านหลังโครงการบริเวณทางออก ภายในโรงเรือน
ทำเป็นแปลงปลูกพืชผักเมืองหนาวหลายชนิด ด้านหลังของโรงเรือนเป็นโรงปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน ผลผลิตที่ได้ส่งขายที่ร้านจำหน่ายผลผลิตของโครงการหลวงอ่างขางบริเวณโรงเรือนไม้ในร่ม

TIPS รู้ก่อนเที่ยว
ที่พักมีให้เลือก 2 แบบ คือ
พักแบบปกติ บ้านพักในแผนฯ ซึ่งต้องจองกันแบบล่วงหน้ามากๆ เพราะถ้าในช่วงวันหยุดยาวๆ สถานที่พักอาจจะเต็มได้ โรงแรม หรือห้องเช่าของชาวบ้านที่มีให้บริการบริเวณจุดจอดรถก่อนทางเข้าโครงการหลวงฯ หรือ


   ถ้าชอบแนวผจญภัยนิดหน่อยก็ต้องแบบนอนเต็นท์ ซึ่งจุดกางเต็นท์ก็มีให้บริการอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือจุดของแผนหลวงฯ ซึ่งอยู่ก่อนถึงทางเข้าประมาณ 3 กิโลเมตร และอีกจุดหนึ่งเป็นของหน่วย อพปร. เป็นลานกว้างปรับระดับดินให้เป็นแนวราบ ข้อดีของจุดนี้คือเมื่อคุณตื่นนอนคุณก็สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแบบพาโนรามาสวยดีทีเดียว มีน้ำอุ่นให้บริการ จะอยู่เลยขึ้นไปอีกประมาณ  4-5 กิโลเมตร

การเดินทางไปทำบุญวันออกพรรษา
รถยนต์ส่วนตัว จากเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสาย 107 เชียงใหม่-ฝาง เป็นเส้นทางผ่านแม่ริม แม่แตง เชียงดาว ทางแยกเข้าดอยอ่างขางที่ กิโลเมตรที่ 137 มีระยะทางถึงอ่างขางประมาณ 25 กม. เป็น
เส้นทางที่สั้นแต่ชันมาก รถเก๋งและรถทุกชนิดขึ้นได้แต่ต้องขับด้วยความระมัดระวังอย่างมาก
รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถออกจากสถานีหมอชิต 2 (จตุจักร) กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มี 2 เที่ยว คือเวลา 9.00 น. และ 20.00 น. ลงที่สถานีขนส่งช้างเผือก ต่อรถเอกชนสายเชียงใหม่-ฝาง หรือ เชียงใหม่-ท่าตอน ที่สถานี แล้วลงที่ปากทางขึ้นดอยอ่างขาง หน้าวัดหาดสำราญ กิโลเมตรที่ 137 ค่าโดยสาร 100 บาท  ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นให้ว่าจ้างสองแถว รถตู้ หรือรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยอ่างขางอีกทีหนึ่ง หรือเดินทางด้วยรถตู้ประจำทางจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ไปยังอ่างขาง ที่สถานีขนส่งช้างเผือกก็ได้ สายเชียงใหม่-ท่าตอน VIP 150 บาท ธรรมดา 130 บาท

Read More


วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ร้านแป๊ะก๋วยเตี๋ยวปู ตลาด 100 ปี บางนกแขวกทำบุญวันออกพรรษา

ออกพรรษาที่ใกล้เข้ามาจะตรงกับวันที่ 19 เดือนตุลาคม 2556 เป็นวันเสาร์

เป็นวันที่หลายท่านร่วมใจทำบุญวันออกพรรษาซึ่งแล้วแต่บางท่านอาจจะไปทำบุญที่วัดหรือบางท่านอาจจะกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวอยู่นั้นเอง วันนี้ทีมงานเลยหา สถานที่ท่องเที่ยวมาฝากกัน วันออกพรรษาต้องบอกก่อนเลยว่า รถติดอย่างแน่นอน แนะนำให้จองโรงแรมไว้ด้วยนะ

ตลาด 100 ปี บางนกแขวกสถานที่เที่ยวทำบุญวันออกพรรษา



หากท่านที่กำลังเดินเล่นหรือไปทำบุญแถว ๆ ตลาดน้ำอัมพวา  ตลาด 100 ปี บางนกแขวกอยู่ไม่ไกลกันมากเท่าไร

ตลาด 100 ปี บางนกแขวก
ตั้งอยู่ที่ปากคลองบางนกแขวก อ.บางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นตลาดน้ำดั่งเดิมที่มีอายุกว่า 100 ปี เป็นหนึ่งในตลาดไม้ห้องแถวริมแม่น้ำแม่กลอง และเชื่อมต่อไปยังคลองดำเนินสะดวก การค้าขายในสมัยก่อนของที่นี่จึงเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้ามากมาย อยู่ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาเพียง 5 กิโลเมตร แต่ความเรียบง่ายและกลิ่นไอของความโบราณของที่นี่ยังคงหลงเหลือให้เราเห็นอยู่บ้าง แม้ไม่มากและคึกคักเช่นตลาดน้ำอัมพวา

ของอร่อยและร้านที่แนะนำในออกพรรษานี้



ร้านแป๊ะกวยเตี๋ยวปู ตั้งอยู่ทางเข้าด้านหน้าตลาดฝั่งถนน น้ำซุปหวานหอม ชามใหญ่ เนื้อปูเยอะอัดแน่นพูนชาม สำหรับคนที่อยากหนักท้องสักหน่อยก็มี กระเพราปูราดข้าว และข้าวผัดปู ให้เลือกชิมกันด้วย ร้านเปิดขาย เวลา 08.00 -15.30 น. ต่อด้วย



ร้านเฮียเกียรติ ข้าวแห้ง เจ้าดั่งเดิม ที่มีเครื่องเคียงให้เลือกใส่ 5 อย่างด้วยกัน คือ เนื้อไก่ กระเพาะหมู กระดูกหมู หมูหวาน และเนื้อปลา รสชาติอร่อย ทำแบบสูตรโบราณแท้ๆ นั่งทานกันริมแม่น้ำได้บรรยากาศวันวานดีนักแล นอกจากนี้ก็ยังมี ร้านผัดไทกุ้งสด ที่กุ้งตัวใหญ่มาก ร้านข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายขนมหวาน เปิดขายเป็นท่อนตลอดทางเดิน

หากท่านที่กำลังหาสถานที่ทำบุญวันออกพรรษาอยู่พลาดไม่ได้เลยกับสถานที่เที่ยวที่เราแนะแนวไปให้ในวันนี้ อย่างที่บอกว่า มันอยู่ไม่ไกลจากอัมพวามากนักเท่าไร หากท่านที่สนใจไปลองดูนะครับ พาเพื่อน ๆ ไปกันเยอะๆ

ขอขอบพระคุณภาพ สวยๆและบทความดี ๆ จาก คู่หูเดินทาง
Read More


ทำบุญวันออกพรรษาที่พิมาย

ขึ้นไปทางภาคอีสานเที่ยวเพื่อทำบุญวันออกพรรษา


กับสถานที่ที่ชี้ทางวันนี้คือ ปราสาทหินพิมาย สำหรับท่านที่สนใจไปไม่ยากอย่างแน่นอน ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯเพียงแค่ 259กิโลเมตรเท่านั้นเอง อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ตั้งอยู่ที่ ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา



ซึ่งห่างจากตัวเมืองโคราชไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 115 ไร่ ซึ่งเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนานิกายมหายานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีอายุราว 1,000 ปี เป็นปราสาทขอม ซึ่งหมายถึง ศาสนสถาน, วัด หรืออาคารเรือนยอดสำคัญที่ใช้ประดิษฐานรูปเคารพ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า



ทำบุญวันออกพรรษากับที่นครราชสีมา

มีสถานมากมายในการทำบุญวันออกพรรษาที่ได้รวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ไปเที่ยวกัน สำหรับออกพรรษาจะตรงกับวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ซึ่งเป็นวันเสาร์



ปราสาทหินพิมาย

ในปราสามหินพิมายมีโบราณสถานอยู่เหลือแหล่ นอกจากที่เราจะทำบุญวันออกพรรษาที่วัดนั้นแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายเลยทีเดียว



พลับพลา
ภายในลานชั้นในทิศตะวันออกของปราสาทประธาน มีฐานอาคารก่อด้วยหินทราย รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุม เว้นช่องว่างตรงกลางเป็นช่องสี่เหลี่ยม ด้านที่หันหน้าเข้าสู่ปราสาทประธานทำเป็นมุขยื่นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สันนิษฐานว่า อาคารหลังนี้คงใช้ประโยชน์ในพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง



หอพราหมณ์
เป็นอาคารก่อด้วยหินทรายและศิลาแลง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกับปราสาทหินแดง ได้ค้นพบศิวลึงค์ขนาดย่อมทำด้วยหินทราย เชื่อว่าอาคารหลังนี้น่าจะเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์

ปรางค์หินแดง
สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางด้านขวาของปรางค์ประธาน มีมุขยื่นออกไปทั้งสี่ทิศ เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือมีทับหลังทรายจำหลักภาพเล่าเรื่องมหาภารตะ ตอน กรรณธล่าหมูป่า

ปรางค์พรหมทัต
ตั้งอยู่บากหน้าของปราสาทประธานทางด้านบุพทักษิณ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประตูเป็นมุขยื่นสี่ทิศ ภายในองค์ปรางค์พบประติมากรรม 2 ชิ้น คือ ประติมากรรมรูปบุคคลขนาดใหญ่นั่งขัดสมาธิสลักด้วยหินทราย สันนิษบานว่า เป็นรูปของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ชาวบ้านมักเรียกว่า ท้าวพรหมทัต ส่วนอีกรูปหนึ่งเป็นรูปสตรีนั่งคุกเข่า สลักด้วยหินทราย ส่วนศรีษะและแขนหักหายไป เชื่อว่าเป็นรุปของพระนางชัยราชเทวีมเหสี ชาวบ้านเรียกตามนิยายพื้นบ้านว่า นางอรพิม ปัจจุบันประติมากรรมทั้ง 2 นี้ จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย



เป็นอย่างไรบ้างสำหรับสถานที่เที่ยวทำบุญวันออกพรรษา หากท่านใดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้แนะนำกันมาได้เลย หากท่านที่มีเวลาว่างให้ลองหาสถานที่อื่นดู

Read More


วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

พาเที่ยวน่านวันออกพรรษา

คุณกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวกันอยู่ไหม สำหรับวันออกพรรษานี้


แน่นอนว่่าเราก็เช่นกันวันนี้เลยนำสถานที่ท่องเที่ยววันออกพรรษามาฝากเพื่อน ๆ กัน วันออกพรรษาเป็นอีกหนึ่งวันหยุดที่แสนจะสบาย แน่นอนว่าเราต้องมากาสถานที่ท่องเที่ยวกัน

เริ่มจากสถานที่แรกกันเลย วัดหัวข่วง

        ตั้งอยู่ใกล้หอคำ หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน มีวิหาร และเจดีย์ มีลักษณะศิลปกรรมแบบท้องถิ่นล้านนา สกุลช่างเมืองน่าน ฝีมือประณีตงดงาม วัดนี้ไม่ปรากฏว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด มีเพียงหลักฐานว่าได้รับการบูรณะในราว พ.ศ. 2425  โดยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าเมืองน่าน และต่อมาราวปี พ.ศ. 2472 ในสมัยเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองน่าน องค์สุดท้าย วัดนี้มีวิหารที่สวยงาม ปัจจุบันเป็นอาคารทรงจั่ว โดดเด่นที่หน้าบันประดับลวดลายไม้จำหลักรูปพรรณพฤกษาที่ประณีตงดงาม ซุ้มประตูหน้าต่าง ประดับลายปูนปั้นรูปใบผักกาดแบบศิลปะตะวันตก เป็นวิหารผีมือช่างเมืองน่านที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ในวัดยังมีหอไตรเก่าลักษณะคล้ายวิหาร แต่มีขนาดเล็ก หน้าบันและฝาชั้นบนประดับลายสลักสวยงาม ตั้งอยู่ใกล้องค์เจดีย์ เจดีย์วัดหัวข่วง เป็นเจดีย์ทรงประสาท หรือเรือนทอง ศิลปะล้านนา ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริด ลักษณะของรูปทรง โดยส่วนรวมคล้ายกับเจดีย์วัดโลกโมลี ที่เชียงใหม่ ในวันออกพรรษาที่จะมาถึงนี้ทางวัดได้จัดประเพณีทำบุญวันออกพรรษาอีก
สถานด้วย

สำหรับท่านที่ต้องการเที่ยวจังหวัดน่านยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น






เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ทางทีมงานเราได้แนะนำกันเข้ามา วันออกพรรษาเป็นวันหยุดของครอบครัวนะครับ หาสถานที่ท่องเที่ยวกันไปนะครับ


Read More


วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ทริปเกาะล้านวันหยุดนี้

ใกล้เข้ามาแล้วนะครับกับงานทำบุญวันออกพรรษาที่หลายท่านกำลังรอ


วันนี้เรามาหาสถานที่ท่องเที่ยวทำบุญวันออกพรรษา เลยเอาทริปการเที่ยวเกาะล้านมาฝากเพื่อน ๆ กันนะครับ พัทยาหรือเกาะล้านเป็นสถานที่ท่องเที่ยววันหยุดที่อยู่ไม่ไกลจาก กรุงเทพฯมากนักเท่าไรจึงมีผู้คนนิยมเที่ยวกันมากในวันหยุดที่แสนจะสั้น

วิธีการไปเกาะล้านในวันออกพรรษานั้นแนะนำให้ไปรถตู้ครับ เพราะหากไปรถส่วนตัวนั้นมีผู้คนมากมายที่ไปทำบุญวันออกพรรษากันมากมาย สิ่งที่จะตามมาคือรถติดอย่างแน่นอนคับ



สัมผัสกับบรรยากาศแห่งท้องทะเลที่สดใสและ        สวยงามแห่งหนึ่งของทางภาคตะวันออกของไทย เกาะล้าน ตั้งอยู่ในแนวขนานกับหาดพัทยา         อยู่ห่างจากอ่าวระยะทาง 7.5 กิโลเมตร ตัวเกาะกว้าง 2 กิโลเมตร ยาว 5 กิโลเมตร เกาะล้านมี        หาดทรายขาวนวลเม็ดทรายละเอียด มีแนวปะการังมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือหาง        ยาวท้องกระจกหรือดำน้ำดูปะการังได้ ซึ่งมีหาดทรายที่เลื่องชื่อ ได้แก่ หาดตาแหวน อยู่ทาง        เหนือของเกาะ มีหาดทรายยาวประมาณ 750 เมตร เป็นหาดที่มีร้านค้าต่างๆ มากมาย เรือ            ท่องเที่ยวมักมาจอดบริเวณนี้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีหาดทรายขาวและสวยงาม หาดแหลม        เทียน และหาดแสม อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะล้าน หาดทรายยาวประมาณ 700 เมตร         และ 100 เมตร ตามลำดับจัดเป็นหาดที่สวยงามและน่าประทับใจอีกแห่งหนึ่งของเกาะ             โดยเฉพาะบริเวณแหลมเทียน มีความเงียบสงบและสะอาด ปัจจุบันมีร้านค้าไว้บริการ            นักท่องเที่ยวอยู่บ้าง หาดตาพัน อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ หาดยาวประมาณ 500 เมตร บน        หาดมีเพิงพักชั่วคราว สำหรับนักท่องเที่ยวเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุด เรือท่องเที่ยว        มัก มาจอดบริเวณหน้าหาดตลอดไปจนถึงแหลมเทียนและหมู่เกาะใกล้เคียง ซึ่งจะมีปะการังอยู่        โดยตลอด หาดนวล อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ ชายหาดยาวประมาณ 450 เมตร เป็นหาดที่มี            โรงแรมตั้งอยู่ มีนักท่องเที่ยวมาพักมากพอสมควรบริเวณนี้เป็นแหล่งดูปะการังอีกแห่งหนึ่ง         นักท่องเที่ยวนิยมดูปะการัง จัดเป็นหาดที่น่าสนใจอีกหาดหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังมี หาดแหลม        หัวโขนด้านหน้า-หลัง แหลมทองหลาง แหลมถ้ำแร่ ฯลฯ ที่เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ             สำหรับกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นกันที่เกาะล้าน ได้แก่ เล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นเรือลาก        ร่มชูชีพ เรือสกี เรือสกู๊ดเตอร์ เป็นต้น

เป็นอย่างไรบ้างกับทริปการทำบุญวันออกพรรษาของทางเราที่พาท่านเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
Read More


กินเจก่อนทำบุญวันออกพรรษา

นับว่าเป็นเรื่องที่ดีก่อนงานบุญทำบุญวันออกพรรษา


นั้นคือการกินเจที่กำลฮิตมากในขนาดนี้ แน่นอนว่าหลายท่านก็กำลังกินเจกันอยู่อย่างแน่นอน เอาละหลายคนคงทราบกันแล้วว่ากินเจกินทำไม ทำไมต้องกิน จริง ๆ แล้ว เราสามารถกินเจได้ตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้
ตอบคำถามเกี่ยวกับการทานอาหารเจ 


1.ทานอาหารเจควรท่านอย่างไร?
เลือกกินให้ครบ 5 หมู่ในทุกๆ มื้อ หลักนี้สำคัญมากและขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะทานอาหารปกติ หรือทานอาหารเจ เราควรคำนึงถึงสัดส่วนอาหารในแต่ละหมู่ให้ครบในทุกๆมื้อ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป หากใครกลัวว่าทานเจแล้วไม่ละเว้นการทานเนื้อสัตว์จะได้โปรตีนไม่เพียงพอ ไม่ต้องกังวลนะคะ ให้เน้นทานพืชตระกูลถั่ว เพื่อเป็นแหล่งโปรตีน

2.ตอนกินเจควรเลือกข้าวอย่างไร
เลือกกินข้าวหรือแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย ธัญพืชต่าง ๆ ร่างกายใช้พลังงานในการย่อยออกมาเป็นแป้งที่พร้อมดูดซึม ซึ่งน้ำตาลไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับปริมาณที่เท่ากันของแป้งขัดขาว

3.กินเจจำเป็นไหมที่กินแต่ของทอด
เลือกกินของนึ่ง, ต้ม, ตุ๋น และเลี่ยงของทอดและผัด เพราะช่วยให้เลี่ยงการกินน้ำมัน ซึ่งมีไขมันอยู่สูง ข้อนี้สำคัญมากๆสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และไม่อยากได้ไขมันส่วนเกินแถมมาในช่วงเทศกาลกินเจ

4.เลือกกินผักอย่างไร
เลือกกินผักใบมากกว่าพืชหัว เพราะผักใบมีคาร์โบไฮเดรตที่น้อยกว่าพืชหัวมาก ดังนั้น การกินผักใบจะทำให้เราได้พลังงาน และปริมาณแป้งน้อยกว่าจึงไม่ทำให้อ้วน





5.กินเจอย่างไรไม่ให้ด้วน
กินหวานให้น้อยลง ไม่ใช่ว่าเมื่อคุณกินเจแล้ว จะสามารถกินขนมหวานได้เต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารเจหรือไม่เจ ถ้ามีความหวานและผสมน้ำตาลอยู่มากก็อ้วนได้ไม่ต่างกัน

6.ควรกินผลไม้หลายๆ สี ทั้งแดง, เขียว, ขาว, เหลือง, ดำ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลายและเพียงพอ รวมไปถึงมีไฟเบอร์ที่จะช่วยระบบขับถ่าย ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียและสารพิษตกค้างออกมา ส่วนใครที่มักมีปัญหา กินเจแล้วหิวบ่อย ให้หาแอปเปิ้ลเขียว หรือผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยติดตัวไว้ ได้รองท้องแล้ว ยังได้ประโยชน์อีกมากมายเลยล่ะ

7.ควรกินพืชตระกูลถั่วด้วย เพราะเป็นแหล่งโปรตีน มีธาตุเหล็กสูง ช่วยสลายคอเลสเตอรอล ปัจจุบันถั่วถูกแปลงโฉมให้อยู่ในรูปของโปรตีนเกษตร ที่มีความคล้ายคลึงกับอาหารจริง ๆ แล้วแถมยังไม่มีไขมันด้วย แต่แนะนำให้เลี่ยงพวกถั่วทอดไว้ เดี๋ยวจะได้ไขมัน และคอเลสเตอรอลเพิ่มได้โดยไม่รู้ตัว


8.ควรกินให้หลายหลาย หลักการเดิมๆที่ผู้เขียนเองมักเตือนทุกๆ ท่านอยู่บ่อยๆ ว่าไม่ควรทานอะไรซ้ำๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมของอันตราย โดยเฉพาะอันตรายทางเคมีที่เรามองไม่เห็น และสะสมในร่างกายจนเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ โดยเฉพาะอาหารเจที่มีไขมันสูง บรรจุในกล่องโฟม อาหารปิ้ง ย่าง หรือทอด

หลังจากเทศกาลการกินเจแล้วพลาดไม่ได้เลยต่อด้วยงานทำบุญวันออกพรรษาที่หลายคนกำลังรอเคยกันอยู่ทีเดียว
Read More


วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตักบาตรสองแผ่นดินในการทำบุญวันออกพรรษา

สวัสดีวันออกพรรษาที่ใกล้จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้แล้วสินะครับ ซึ่งวันออกพรรษาคือวันที่พระสงฆ์ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดเป็นเวลา2เดือนเต็ม โดยเป็นการจำพรรษาโดยยึดหลักคำสอนทางศาสนาและปฏิบัติตนตลอดระยะเวลา 3 เดือนเลยทีเดียว

ทำบุญวันออกพรรษา มีประเพณีอยู่มากมาย โดยจะแตกต่างในเรื่องของสถานที่และท้องถิ่น รวมแม้กระทั้งวัฒนธรรม


ตักบาตรสองแผ่นดิน เป็นประเพณีของทางภาคเหนือของประเทศไทยที่ยึดหลักคำสั่งสอนทางศาสนาพุทธและขนบธรรมเนียมของรุ่นผู้ใหญ่


เนื่องในวันออกพรรษา  เทศบาลตำบลแม่สาย จัดให้มีการทำบุญตักบาตรสองแผ่นดิน (ตักบาตรเทโว)  เหนือสุดในสยาม เพื่อเป็นการระลึกถึงหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์ประเพณีที่ดีงามของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวแม่สาย และชาวเมียนม่าร์ ในสองฝั่งประเทศ โดยกำหนดจัดงานทำบุญตักบาตรเทโวขึ้น บริเวณเชิงดอยวัดพระธาตุดอยเวา (หน้าด่านพรมแดน) เรื่อยไป จนถึงมูลนิธิกวงเม้งแม่สาย (ถนนพหลโยธินด้านทิศตะวันตก) ตั้งแต่เวลา 04.00 น.เป็นต้นไป
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน เข้าร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
(หมายเหตุ : การแต่งกายให้สวมใส่ชุดสุภาพเรียบร้อย หรือชุดพื้นเมืองประจำท้องถิ่น หรือชุดประจำชนเผ่า ห้าม ผู้หญิง แต่งชุดรัดรูป นุ่งสั้น เว้าแหว่ง หรือชุดไม่สุภาพในวันดังกล่าว)
ติดต่อ เทศบาลตำบลแม่สาย
ถนนพหลโยธิน ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 57130
โทร 053-731288  05-3 732828-9
 

สำหรับท่านที่เดินทางไปทำบุญวันออกพรรษาที่ภาคเหนือของประเทศไทยให้ตรวจสอบสภาพอากาศและเตรียมของไปให้ดี ๆ นะครับ และร่วมกันเข้าวัดทำบุญเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของไทย
Read More


วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ประเพณีการแข่งเรือยาวออกพรรษาไทยลาว

ประเพณีการแข่งเรือยาวออกพรรษาไทยลาว ตีช้างน้ำนอง (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ประจำปี 2556 ทวันออกพรรษา


วันออกพรรษาที่ใกล้เข้ามาแล้วหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าจะไปเที่ยวไหนดีวันนี้เลยพากันไปที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคอีสานของประเทศไทยนั้นเอง

จังหวัดมุกดาหารเป็นจังหวัดชายแดนแห่งสำคัญ เป็นที่ตั้งของสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ซึ่งเปรียบเป็นประตูที่เปิดไปสู่กลุ่มประเทศอินโดจีน คือ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและประเทศเวียดนาม ที่นับวันจะทวีความสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากขึ้นมุกดาหารโดดเด่นในด้านความหลากหลายของเชื้อชาติ เนื่องจากพลเมืองของจังหวัดประกอบด้วยชนพื้นเมืองต่างๆ หลากหลายเผ่า มุกดาหารจึงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันงดงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นมากมายนอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งบนบกและในน้ำ จึงนับเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้ามจังหวัดมุกดาหารมีเนื้อที่ประมาณ 4,340 ตารางกิโลเมตร หรือ 2.7 ล้านไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 52 ของประเทศ สภาพพื้นที่ทางทิศเหนือและทิศใต้เป็นที่ราบสูง ทางทิศตะวันตกเป็นเทือกเขาภูพานมีป่าไม้หนาแน่น ส่วนทิศตะวันออกเป็นที่ราบสลับป่าไม้ และมีแม่น้ำโขงไหลผ่านเป็นระยะทางประมาณ 72 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดมุกดาหารเริ่มก่อตั้งเป็นเมืองขึ้นในราวปี พ.ศ. 2310 สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา เมื่อเจ้ากินรี บุตรชายของเจ้าจันทรสุริยวงศ์ ผู้ปกครองบ้านหลวงโพนสิน ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณพระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต ประเทศ สปป. ลาวในปัจจุบัน ได้ข้ามลำน้ำโขงมาสร้างเมืองขึ้นที่บริเวณปากห้วยมุก แล้วตั้งชื่อเมืองว่า “มุกดาหาร” ต่อมาในปี พ.ศ. 2321 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เจ้ากินรีเป็น “พระยาจันทรศรีสุราช อุปราชามัณฑาตุราช” ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นคนแรกของเมืองมุกดาหารต่อมาเมืองมุกดาหารมีฐานะเป็นเมืองขึ้นของมณฑลอุดร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2450 มีการปรับเปลี่ยนระบบการปกครอง มณฑลอุดรถูกเปลี่ยนเป็น “จังหวัดอุดร” เมืองมุกดาหารก็ถูกผนวกเข้าเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครพนม ชื่อว่า “อำเภอเมืองมุกดาหาร” จนถึงปี พ.ศ. 2525 รัฐบาลจึงได้ออกพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดมุกดาหารขึ้นเป็นจังหวัดที่ 73 ของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่ 17 ของภาคอีสานปัจจุบันจังหวัดมุกดาหารแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองมุกดาหาร อำเภอคำชะอี อำเภอดอนตาล อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอดงหลวง อำเภอหว้านใหญ่ และอำเภอหนองสูง

         การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม ร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร ขอเชิญร่วมงาน "การแข่งขันเรือยาวออกพรรษาไทย-ลาว ประจำปี 2556" ในระหว่างวันที่ 23-31 ตุลาคม 2556 ณ ริมฝั่งโขง หน้าตลาดอินโดจีน จังหวัดมุกดาหาร

          สำหรับกิจกรรมภายในงาน ได้แก่ การชมพิธีตีช้างน้ำนอง บวงสรวง สักการะสิ่งสักสิทธิ์ พระแม่คงคา เทวดา พญานาค ในลำน้ำโขง เพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข เชื่อมสัมพันธไมตรีจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต, ชม ชิม ช้อป ในมหกรรมอาหารอินโดจีนที่ตลาดอินโดจีนริมฝั่งแม่น้ำโขง, ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง 8 เผ่ามุกดาหาร, การแสดงจากสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และการประกวดกองเชียร์เรือยาว เป็นต้น

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองมุกดาหาร โทรศัพท์ 0 4261 1027 หรือ ททท.สำนักงานนครพนม โทรศัพท์ 0 4251 3490-1

เรียกได้ว่าเป็นประเพณีงานทำบุญวันออกพรรษาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากมีการถ่ายทอดสดอีกด้วยและอีกมากมายวันมุกดาหาร ซึ่งเป็นจังหวัดที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับวันออกพรรษา 



Read More


ประเพณีโฮมบุญออกพรรษา แห่กระธูป ประจำปี 2556 จังหวัดชัยภูมิ

ประเพณีทำบุญวันออกพรรษาที่ จังหวัดชัยภูมิ


ดินแดนแห่งทุ่งดอกกระเจียวงาม สายน้ำตกชุ่มฉ่ำยามหน้าฝน ผืนป่าอันกว้างใหญ่อุดมที่ภูเขียวแหล่งรวมความหลากหลายของธรรมชาติ ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นอย่างมอหินขาวเรียกได้ว่าจังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวเด่นล้ำไม่น้อยหน้าใครในภาคอีสาน
         จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา จัดงานบุญยิ่งใหญ่ "ประเพณีโฮมบุญออกพรรษา แห่กระธูป" ในระหว่างวันที่ 13-17 ตุลาคม 2556 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ

          งานบุญเทศกาลทำบุญวันออกพรรษา "ประเพณีโฮมบุญออกพรรษา แห่กระธูป" ถือเป็นงานที่ส่งเสริมความสามัคคีในชุมชน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดชัยภูมิ ภายในงานมีกิจกรรมการชมขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่และอลังการ รวมทั้งการประกวดต้นกระธูปที่สูงและใหญ่ที่สุด สร้างโดยชาวบ้านอำเภอหนองบัวแดง รวมทั้งมีการจัดแต่งตามสไตล์ที่หลายหลากตามแต่ละพื้นที่ อีกทั้งกิจกรรมการแสดงดนตรีพื้นบ้านและมหรสพมากมาย รวมถึงการแสดงและจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองชัยภูมิอีกด้วย

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ว่าการอำเภอหนองบัวแดง โทรศัพท์ 0 4487 2123, 08 6879 0287 หรือ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทรศัพท์ 0 4421 3030, 0 4421 3666


เกร็ดความรู้ "ประเพณีบุญแห่กระธูป"

ในวันออกพรรษา ชาวพุทธจะถวายการสักการะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากโปรดพุทธมารดา ชาวพุทธทั้งหลายต่างเฉลิมฉลอง และในกาลนี้ ชาวพุทธในภาคอีสาน โดยเฉพาะชาวอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ได้จัดทำต้นหระธูปโดยการนำธูปพันด้วยกระดาษสีให้เป็นลวดลายต่างๆ แล้วประกอบเป็นต้น ร่วมสมโภชและนำไปจุดยังวัดต่างๆ ในการจัดทำกระธูปครั้งแรกเริ่มจัดทำที่บ้านราษฎร์ดำเนินโดยทำต้นกระธูปและจัดให้มีมหรสพสมโภชก่อนวันออกพรรษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 และเมื่อปี พ.ศ. 2545 อำเภอหนองบัวแดงได้เล็งเห็นถึงคุณค่าของประเพณีแห่กระธูปจึงได้จัดให้ชุมชนและวัดต่างๆ ที่เคยมีการทำต้นกระธูป และที่ยังไม่เคยทำต้นกระธูปให้ร่วมกันประดิษฐ์ต้นกระธูป  เพื่อเป็นการสืบสานประเพณี  และเป็นหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอหนองบัวแดง
"ประเพณีแห่กระธูป" ที่ตำบลหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ  ในประเพณีบุญออกพรรษาของทุกปี ชาวบ้านจะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างกระธูปโดยจะตีเกราะเคาะขอลอ ให้ชาวบ้านออกไปรวมตัว ณ จุดนัดหมาย (อาจเป็นศาลากลางบ้านหรือบ้านผู้ใหญ่บ้าน) ไปพันกระธูป  ซึ่งกว่าจะเป็นธูปจุดไฟได้ต้องผ่านกระบวนการยาวนานพอสมควร เพราะมันไม่ใช่กระธูปหรือธูปที่วางขายตามตลาด แต่มันเกิดมาจากการขยี้เอามาจากกาบมะพร้าวจนร่วงออกมาเป็นผง แล้วพันด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หุ้มอีกทีด้วยกระดาษสีหรือกระดาษแก้วหลากสีสัน  ก่อนที่จะนำไปมัดเข้ากับดาวก้านตาล(สานจากใบตาลหรือใบลาน) จากนั้นจึงนำไปมัดห้อยกับก้านธูปที่เป็นเสมือนคันเบ็ด ทำไว้มาก ๆ เสร็จแล้วจึงจะนำเข้าไปเสียบเข้าไปรูรอบปล้องไม้ไผ่ ทำเป็นชั้นขึ้นไปเหมือนฉัตร ประดับตกแต่งงดงาม ก่อนที่จะนำออกไปจุดในวันเวียนเทียนออกพรรษา
ความร่มเย็นอันยิ่งใหญ่ของ กระธูป สัญลักษณ์แทนต้นหว้า ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชมพูทวีป ถูกบันทึกไว้ในหนังสือฎีกาพระมาลัยสูตร ความว่า ลักษณะของต้นธูปมีความยาวประมาณ 50 โยชน์ มีกิ่งใหญ่ 4 กิ่ง แผ่ออกไปใน 4 ทิศทาง กว้างเป็นปริมณฑลได้ 100 โยชน์ หมายถึง พระพุทธศาสนานี้ เป็นร่มเย็นแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เปรียบเอา ต้นธูปนี้ จุดแล้วย่อมส่งกลิ่นหอมฟุ้งขจรขจายไปยังทิศต่าง ๆ กลิ่นหอมนี้ ย่อมเป็นที่ชื่นใจแก่มนุษย์ทั้งปวงที่ได้สัมผัสกลิ่นย่อมเกิดปีติและความสุขความเบิกบาน คุณค่าทางจิตใจ ประดิษฐ์ขึ้นง่าย ๆ จากวัสดุภายในท้องถิ่น ประกอบด้วย ขุยมะพร้าว ใบอ้ม ใบเนียม โดยนำใบไม้ทั้ง 2 ชนิด มานึ่งแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาบดอีกครั้งจะได้ฝุ่นไม้ที่มีกลิ่นหอมแล้วจึงนำไปผสมกับขุยมะพร้าวห่อด้วยกระดาษให้ได้รูปทรงยาวเหมือนธูป นำกระดาษสีมาประดับตกแต่งลวดลายให้สวยงาม ส่วนใหญ่นิยมเป็นลายไทยเช่นเดียวกับลายมัดหมี่ แล้วนำธูปที่มัดติดกับดาวซึ่งทำจากใบลานมามัดติดกับคันไม้ไผ่ลักษณะคล้ายคัดเบ็ด แล้วนำไปเสียบไว้กับแกนไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ ความสูงประมาณ 3-5 เมตร รูปทรงคล้ายฉัตรก่อนจะนำไปแห่และจุดไฟบูชา พร้อมกันนี้ให้เอาลูกดุมกา ลักษณะคล้ายส้มแต่มีเปลือกแข็งมาผ่าเป็น 2 ซีก ใส่น้ำมันพืชลงไปแล้วควั่นด้ายเป็นรูปตีนกาเพื่อจุดไฟให้แสงสว่างใต้ต้นกระธูป
งานบุญจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าด้วยการทำบุญตักบาตร นำขบวนแห่ต้นกระธูปวนรอบตลาดในเขตเทศบาลตำบลหนองบัวแดง จากนั้นนำต้นกระธูปไปตั้งสมโภชน์ที่วัดบ้านราษฏร์ดำเนิน บริเวณร้านประทีปหน้าพระอุโบสถ ลักษณะของร้านเป็นสี่เสาทำด้วยไม้ไผ่สูงประมาณ 1 เมตร พื้นร้านจะสานเป็นตาสี่เหลี่ยมแซมด้วยกาบกล้วย เสาแต่ละต้นถูกประดับประดาด้วยต้นกล้วย ต้นอ้อย ต้นกระธูป และไต้น้ำมัน
ในตอนกลางคืนจะมีการแสดงฟ้อนรำ การละเล่นของแต่ละหมู่บ้าน ควบคู่ไปกับ การจุดกระธูปบูชาพระรัตนตรัยเป็นเวลา 3 คืน ได้แก่ ขึ้น 14 ค่ำ ชาวบ้านเรียกว่า จุดไต้น้ำมันน้อย ขึ้น 15 ค่ำ เรียกว่า จุดไต้น้ำมันใหญ่ และคืนข้างแรม 1 ค่ำ เรียกว่า ไต้น้ำมันล้างหางประทีป
**ต้นกระธูปทุกต้น จะได้นำไปถวายวัดในพื้นที่ อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เนื่องในวันออกพรรษา ของทุกปี   เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และมีกิจกรรมเวียนเทียนและต้นกระธูปด้วย

จังหวัดชัยภูมิ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่จัดงานประเพณีทำบุญวันออกพรรษาที่ใหญ่ไม่แพ้ที่อื่นเลยก็ว่าได้ หากท่านใดที่จะไปเที่ยวก็ลองหาสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดดูซึ่งมาอยู่มากมาย
Read More


วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาหลวงวันออกพรรษานี้

ทำบุญวันออกพรรษาที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง 

หากท่านที่มาท่องเที่ยวที่นครศรีธรรมราชพลาดไม่ได้เลยที่จะมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่มากนักแถวยังมีรถผ่านไปผ่านมาสะดวก อีกทั้งหากใครที่ต้องการมาพักผ่อนก็จะมีบ้านพักให้ได้เช่ากัน ขออธิบายสถานที่ท่องเที่ยวของเราในวันนี้กันหน่อย สำหรับท่านที่มาทำบุญวันออกพรรษาที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช



อุทยานแห่งชาติเขาหลวง นับได้ว่าเป็นเขาหลวงที่มีความสูงที่สุดในภาคใต้ และมีสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก
ข้อมูลทั่วไป
ป่าเฟินดึกดำบรรพ์ มหัสจรรย์แหล่งกล้วยไม้
ณ บริเวณดินแดนคาบสมุทรทางภาคใต้ของประเทศไทย ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวยาว ในบริเวณนี้ส่วนที่เป็น “เทือกเขานครศรีธรรมราช” มี “อุทยานแห่งชาติเขาหลวง” เป็นมรดกทางธรรมชาติที่สำคัญที่สุด ประกอบด้วย “ยอดเขาหลวง” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้ มีสภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคนี้ เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารหลายสายที่ไหลหล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินภาคใต้ตอนกลาง มีสถานที่รื่นรมย์สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ เช่น น้ำตก ภูเขา ยอดเขา ทิวทัศน์ และที่สำคัญมีคุณค่าอันแท้จริงที่จะอำนวยประโยชน์ต่อมนุษยชาติ คือ มีความหลากหลายทางชีวภาพที่สูงยิ่ง

ความเป็นพื้นที่ที่มีประวัติแห่งการต่อสู้ด้านความคิดการปกครองในพื้นที่ผืนป่า “กรุงชิง” ถูกปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ต่อมาฝ่ายรัฐบาลสามารถยึดพื้นที่ได้ ป่ากรุงชิงแตกในปี 2524 ปัจจุบันยังคงทิ้งร่องรอยหลงเหลือให้ได้เข้าไปศึกษาหาความรู้อีกด้วย ความสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ “น้ำตกหนานฝนแสนห่า” มีเอกลักษณ์แห่งความสวยงามจนเป็นที่ปรากฏอยู่ในธนบัตรใบละ 1,000 บาท ด้วยศักยภาพทั้งทางชีวภาพและกายภาพดังกล่าว อุทยานแห่งชาติเขาหลวงได้รับการขนานนามว่า “หลังคาสีเขียวแห่งภาคใต้” “ขุนน้ำแห่ง แดนใต้ตอนกลาง” “ขุนผามหาสดำ” และ “กรุงชิงร่องรอยแห่งประวัติการต่อสู้ด้านความคิดการปกครอง” เป็นต้น

อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ได้รับรางวัล “ยอดเยี่ยม (กินรีทอง)” ประเภท “แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประจำปี พ.ศ. 2541 อุทยานแห่งชาติเขาหลวงมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอลานสกา อำเภอฉวาง อำเภอเมือง อำเภอพิปูน อำเภอพรหมคีรี กิ่งอำเภอช้างกลาง และกิ่งอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเนื้อที่ประมาณ 356,250 ไร่ หรือ 570 ตารางกิโลเมตร

ความเป็นมา: ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 ให้กำหนดป่าเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช และป่าอื่นๆ ในท้องที่จังหวัดต่างๆ รวม 14 ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้ให้ นายสนธิ พรหมอักษร นักวิชาการป่าไม้โท ทำการสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพพื้นที่บริเวณป่าเขาหลวง ปรากฏว่ามีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย แม้ว่าป่าเขาหลวงจะถูกวาตภัยในปี พ.ศ. 2505 ทำให้ไม้ขนาดใหญ่ล้มโค่นถอนรากเป็นจำนวนมาก ตลอดจนมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่น ถ้ำ น้ำตก ยอดเขาสูง ทิวทัศน์ต่างๆ และสัตว์ป่านานาชนิด

กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 1/2517 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2517 เห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาหลวง ในท้องที่ตำบลดอนตะโก ตำบลโมคลาน ตำบลหัวตะพาน ตำบลกะหรอ ตำบลนบพิตำ อำเภอท่าศาลา ตำบลเขาพระ ตำบลกะทูน ตำบลพิปูน ตำบลยางค้อม กิ่งอำเภอพิปูน อำเภอฉวาง ตำบลละอาย ตำบลช้างกลาง อำเภอฉวาง ตำบลท่างิ้ว อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ตำบลพรหมโลก ตำบลบ้านเกาะ ตำบลอินทคีรี กิ่งอำเภอพรหมคีรี อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และตำบลเขาแก้ว ตำบลท่าดี ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในพระราชกิจจานุเบกษา เล่ม 91 ตอนที่ 216 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2517 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 9 ของประเทศ


 ลักษณะภูมิประเทศ
ในปัจจุบันอุทยานแห่งชาติเขาหลวงมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ตำบลท่าดี ตำบลกำโลน ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา ตำบลละอาย อำเภอฉวาง ตำบลท่างิ้ว อำเภอเมือง ตำบลยางค้อม ตำบลพิปูน ตำบลเขาพระ อำเภอพิปูน ตำบลทอนหงส์ ตำบลบ้านเกราะ ตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี ตำบลช้างกลาง ตำบลสวนขัน กิ่งอำเภอช้างกลาง และตำบลกรุงชิง ตำบลนบพิตำ ตำบลนาเหรง กิ่งอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือระหว่างเส้นรุ้งที่ 08 องศา 22 ลิบดา - 08 องศา 45 ลิบดา เหนือ และอยู่ระหว่างเส้นแวงที่ 99 องศา 37 ลิบดา - 99 องศา 51 ลิบดา ตะวันออก พื้นที่อุทยานแห่งชาติครอบคลุมเทือกเขานครศรีธรรมราชตอนกลาง ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนทอดยาวเหนือจรดใต้ขนานไปกับชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก มีที่ราบตามหุบเขาเล็กน้อย ดินบนภูเขาเป็นดินที่เกิดจากการผุสลายของหินแกรนิต มียอดเขาสูงสุดคือ ยอดเขาหลวง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,835 เมตร เป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น แม่น้ำตาปี แม่น้ำปากพนัง คลองกรุงชิง คลองเขาแก้ว คลองท่าแพ คลองระแนะ และคลองละอาย อันเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของพื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นต้น

 ลักษณะภูมิอากาศ
ด้วยเหตุที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทร จึงได้รับลมมรสุมที่พัดผ่านทะเลทั้งสองด้าน ทำให้ฝนตกเกือบตลอดปีและมีอากาศค่อนข้างเย็น มีเมฆปกคลุมถึงร้อยละ 14-15 ทำให้เกิดฤดูกาลเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมกราคม ปริมาณฝนตกมากในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปี 3,500-4,000 มิลลิเมตร และฤดูแล้งเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 15-17 องศาเซลเซียส ในช่วงเดือนธันวาคม และอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 28-30 องศาเซลเซียส ในช่วงเดือนเมษายน

 พืชพรรณและสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติเขาหลวง มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งสองด้าน ทำให้มีสภาพชื้นและปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสูง พืชพรรณไม้ส่วนใหญ่จึงเป็นสังคมพืชป่าดงดิบ ซึ่งสามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ

ป่าดิบเขา เป็นป่าที่ขึ้นอยู่เหนือระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1000 เมตรขึ้นไปจนถึงยอดเขาที่มีเมฆหมอกคลุม พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ เหมือด กำยาน แดงเขา ก่อเขา บุญนาคเขา จำปูนช้าง ฯลฯ พืชคลุมดินส่วนใหญ่คล้ายป่าดิบเขาระดับต่ำแต่จะมีพืชหญ้าขึ้นมาก ได้แก่ บัวแฉกใบใหญ่ บัวแฉกใบมน หวายเหิง หวายแซ่ม้า หวายเขา เป็นต้น

ป่าดงดิบชื้น ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติเกือบทั้งหมด พืชประจำถิ่นและไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ได้แก่ ยาง ตะเคียนทอง ไข่เขียว ตะเคียนทราย สยาขาว กระบากดำ กระบากขาว พันจำ หลุมพอ เอียน เชียด อบเชย เทพทาโร จำปาป่า ก่อ แดงคาน แดงเขา ยมป่า ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกุหลาบพันปี กุหลาบเขาหลวง เต่าร้างยักษ์ หวายหอม หวายไม้เท้า ไผ่เกรียบ ก้ามกุ้งหลายชนิด และมหาสดำซึ่งเป็นเฟินต้นประจำถิ่นของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นต้น

พืชอิงอาศัยซึ่งเกาะตามลำต้นและกิ่งไม้ นอกจากมอสและเฟินแล้ว ยังพบพืชที่น่าสนใจโดยเป็นพืชหายากหลายชนิด เช่น ระย้าหยก และกล้วยไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะมีอยู่มากกว่า 300 ชนิด บางชนิดเป็นกล้วยไม้เฉพาะถิ่นที่พบเพียงแห่งเดียวในโลก เช่น สิงโตพัดเหลือง สิงโตอาจารย์เต็ม ขนตาสิงโต เอื้องสายเสริตสั้น เอื้องแดงหิน กล้วยปลอก เอื้องคีรีวง เป็นต้น

ผลของการสำรวจชนิดและประชากรสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เมื่อปี 2534 พบว่า อุทยานแห่งชาติเขาหลวงเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าไม่น้อยกว่า 327 ชนิด สัตว์ป่าที่พบเห็น เช่น สมเสร็จ เลียงผา ลิงกัง ลิงเสน ค่างดำ ค่างแว่นถิ่นใต้ ชะนีธรรมดา เสือลายเมฆ เสือดำ เสือโคร่ง หมีหมา เก้ง กวางป่า เม่นหางพวง สัตว์จำพวกนก เช่น นกอินทรีดำ ไก่ฟ้าหน้าเขียว ไก่ป่า นกเขาเปล้าธรรมดา นกหว้า นกเงือกหัวหงอก นกเงือกปากดำ นกกก นกชนหิน นกโพระดกหลากสี นกพญาปากกว้างท้องแดง และนกกินปลี ฯลฯ

นอกจากนี้ ในบริเวณเขาหลวงยังพบสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกที่หายากหลายชนิด เช่น งูลายสายมลายู เต่าจักร งูหลามปากเป็ด งูสามเหลี่ยมหัวหางแดง จิ้งจกนิ้วยาวกำพล ตุ๊กแกป่าโคนนิ้วติด จิ้งเหลนเรียวปักษ์ใต้ งูเขียวดงลาย กบเขาท้องลาย กบตะนาวศรี เขียดงูศุภชัย เป็นต้น ในบริเวณแหล่งต้นน้ำลำธารของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จะพบสัตว์น้ำในปริมาณน้อย เนื่องจากมีกระแสน้ำไหลแรง ปริมาณสารอาหารในน้ำมีน้อย พื้นน้ำเป็นหินและทรายไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ที่พบได้แก่ ปลาพลวง ปลาแฮะ ปลาไส้ขม ปลาซิวน้ำตก ปลาอีกอง ปลาติดหิน ปูน้ำตก เป็นต้น

อุทยานแห่งชาติเขาหลวง
หมู่ที่ 4 บ้านร่อน ต.เขาแก้ว  อ. ลานสกา  จ. นครศรีธรรมราช   80230
โทรศัพท์ 0 7530 0494, 0 7539 1218, 0 7539 1240   โทรสาร 0 7530 0494,08 68666520   อีเมล reserve@dnp.go.th

หากท่านที่ต้องการมาเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชนอกจากมาทำบุญวันออกพรรษาแล้วนั้นแนะนำให้มาในช่วงฤดูหนาว เพราะอากาศจะดีมาก ๆ แต่หากวันออกพรรษานี้ยังไม่มีสถานที่เที่ยวไหนก็ขอเชิญมาเที่ยวกัน


Read More


ออกพรรษาพาเที่ยวนครศรีฯ

ทำบุญวันออกพรรษาปีนี้ขอเชิญทุกท่านเที่ยวเมืองนครศรีธรรมราชกัน

 เรื่องราวประวัติศาสตร์มากมายที่รอให้คุณค้นหา ไปกันเลยสถานที่แรกนั้นคือศาลหลักเมือง

ศาลหลักเมือง คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ตั้งของหลักเมือง ซึ่งตามธรรมเนียมพิธีของศาสนาพราหมณ์ว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น ศาลหลักเมืองในประเทศไทยส่วนใหญ่ทำจากไม้มงคล เช่น ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ ในลักษณะเสา ปลายยอดเป็นดอกบัวตูม หรือหน้าเทวดา หรืออาจเป็นหลักหินโบราณ ใบเสมาโบราณ ที่พบในพื้นที่นั้นๆ ตัวศาลส่วนใหญ่เป็นศาลาจตุรมุขทรงไทย มีประตูทั้งสี่ด้าน ยอดอาจเป็นแบบปรางค์ แบบปราสาท แบบมณฑป หรือเป็นศาลเจ้าแบบจีน ตามศรัทธาการก่อสร้างในพื้นที่นั้น บางพื้นที่อาจพบร่วมกันทั้งเสาหลักเมือง และศาลเจ้าแบบจีน ซึ่งมักมีองค์ประธานศาลเจ้าเป็นเทวรูปไม้หรือศิลา เรียกว่า เจ้าพ่อหลักเมือง หรือเจ้าแม่หลักเมือง สถานที่ตั้งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชุมชนเมืองเก่า อาจเป็นตัวจังหวัด หน้าศาลากลางจังหวัด ในประเทศไทยจังหวัดส่วนใหญ่มีศาลหลักเมือง บางอำเภอก็มีศาลหลักเมือง ซึ่งยังคงเรียกว่า ศาลหลักเมืองเนื่องจากบางอำเภอก็เป็นเมืองเก่า ก่อนถูกลดฐานะลงเป็นอำเภอในปัจจุบัน ตามชุมชนเล็กๆ อื่นๆ ก็อาจมีศาลประจำชุมชนเหมือนกัน แต่จะเรียกเป็นศาลหรือเจ้าที่ประจำหมู่บ้าน ชุมชน


ประวัติการสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราชสถานที่ทำบุญวันออกพรรษาของเรา

ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช อันเป็นที่ประดิษฐานหลักเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างขึ้นตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสร้างสิ่งที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยคณะ กรรมการหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ พ่อค้า ประชาชน ในที่ดินของราชพัสดุ บริเวณทิศเหนือของสนามหน้าเมือง มีเนื้อที่ประมาณ ๒ไร่

อาคารหลัก ประกอบไปด้วยอาคาร ๕ หลัง หลังกลางเป็นที่ประดิษฐานหลักเมือง ลักษณะของการออกแบบมีศิลปะคล้ายศิลปะศรีวิชัย วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ส่วนอาคารเล็ก ๔ หลัง ถือเป็นบริวารประจำทิศทั้ง ๔ เรียกว่า ศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง , พระทรงเมือง , พระพรหมเมือง , และ พระบันดาลเมือง วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ เสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ผู้ออกแบบอาคารศาลหลักเมืองคือ ยุทธนา โมรากุล



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ มาทรงเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๓

การก่อสร้างศาลหลักเมืองของนครศรีธรรมราช ใช้เวลาดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสมบูรณ์เป็นเวลาสิบกว่าปี เหตุที่ล่าช้าเนื่องมาจาก การดำเนินการแต่ละขั้นตอน ประกอบด้วยพิธีกรรมสำคัญ ๆ หลายครั้งต่างวาระอย่างต่อเนื่อง บางพิธีกรรมจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงประมาณปีพุทธศักราช ๒๕๒๘ พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เกิดปัญหาอาชญากรรม อิทธิพลอำนาจมืด และนับวันจะเพิ่มทวีความรุนแรงขึ้น รัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯ พลเอกปราม ติณสูลานนท์ นายรัฐมนตรีและ พล.อ.สิทธิ์ จิระโรจน์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เร่งรัดให้กรมตำรวจ คัดเลือกนายตำรวจฝีมือดีไปแก้ไขปัญหาโดยด่วน

พล.ต.อ. สรรเพชญ ธรรมาธิกุล (ยศขณะนั้น) คือนายตำรวจที่ได้รับการคัดเลือกในครั้งนั้นให้ไปดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อปราบปรามโจรผู้ร้าย และเหล่ากลุ่มอิทธิพลอำนาจมืดทั้งหลาย


วันหนึ่ง ณ วัดนางพระยา บ้านปากนคร เทวดารักษาเมือง (องค์จตุคามรามเทพ) ได้สร้างความอัศจรรย์ด้วยการประทับทรงบอกกล่าว ต้องการให้ช่วยสร้างหลักเมือง ทำจากไม้ตะเคียนทองงอกอยู่ทางทิศเหนือของเมืองนครศรีธรรมราช


องค์จตุคามรามเทพ บอกและอธิบายอีกว่า..ในตอนนี้เราต้องทำพิธีกรรมก่อน มีหลายพิธีที่ต้องใช้เวลา เช่น พิธีกรรมเทพชุมนุมตัดชัย ทำในวิหารหลวง ให้ปักธงศรีวิชัยขึ้นห่มพระธาตุ เป็นนัยว่าเราเปิดธงรบกับพวกเหล่าร้าย เช่น พวกโจร หรืออาถรรพ์จัญไรต่าง ๆที่รบกวนเมืองนครฯ..

และคณะดำเนินการสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นต้นมา ได้มีการประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินไปตามคำบอกกล่าวของเทวดารักษาเมืองหรือองค์จตุคามรามเทพทุกขั้นตอนเป็นลำดับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับสถานที่ท่องเที่ยวในวันออกพรรษาปีนี้ขอเชิญพี่น้องมาร่วมกันทำบุญวันออกพรรษาที่จังหวัดนครศรีธรรมราชกันเยอะ ๆ นะครับ
Read More


วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

เที่ยวไปกันที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นอีกหนึ่งวัดสำหรับท่านที่จะเข้าไปทำบุญวันออกพรรษาที่จะได้เข้าไปร่วมกัน แต่อย่าเพิ่งดีใจกันไปเพราะวัดดังกล่าวเราเอาแค่ว่าเข้าไปไหว้พระและดูสิ่งสวยๆงามๆกันเพราะว่าวัดไม่มีพระนั้น จริงๆแล้ววันออกพรรษาปีนี้มีหลายวัดด้วยกันที่จัดงานท่องเที่ยวกันอยู่มากมาย แนะนำว่าลองค้นหาดูกันนะครับว่ามีที่ใดบ้าง

เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ที่นำมาจากกรุงเวียงจันทร์ แต่แท้ที่จริงแล้ว พบเจอวัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย และเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส
วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด การบูรณะครั้งใหญ่ทั้งพระอาราม มีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2425 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามในโอกาสที่มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ในรัชกาลปัจจุบันโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามอีกครั้งใน พ.ศ. 2525 เมื่อมีการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานในการบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของบ้านเมือง ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ

พระอุโบสถ
ตั้งอยู่ส่วนกลางของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีกำแพงแก้วล้อมรอบ มีซุ้มประดิษฐานเสมารวม ๘ ซุ้ม พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. ๒๓๒๖ เพื่อประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (แก้วมรกต) ที่พระองค์ทรงอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๒๒

ในการสร้างพระอุโบสถหลังนี้ใช้เวลา ๓ ปี สำเร็จเรียบร้อยลงใน พ.ศ. ๒๓๒๘ ต่อมา เมื่อประมาณได้เกิดเพลิงไหม้บุษบกทรงพระแก้วมรกตซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมขึ้นใหม่ให้ทันฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดารามในปลายรัชกาล

หลักฐานการก่อสร้างและรายละเอียดทางสถาปัตยกรรม ของพระอุโบสถในรัชสมัยนี้ไม่ชัดเจนนัก นอกจากบ่งไว้ว่า ฝาผนังรอบนอกเป็นลายรดน้ำปิดทองรูปกระหนกเครือแย่งทรงข้าวบิณฑ์ดอกในบนพื้นสีชาด ฝาผนังด้านในเหนือประตูด้านสกัดเป็นภาพเรื่องมารวิชัยและเรื่องไตรภูมิ

ส่วนฝาผนังด้านยาวเขียนภาพเทพชุมนุมตามแบบที่สืบเนื่องมาจากสมัยอยุธยา ฝาผนังระหว่างหน้าต่างเขียนภาพเรื่องปฐมสมโพธิ หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบซึ่งปรากฏว่ามีการแก้ไขในรัชกาลที่ ๓ และ ๔ ในภายหลังดังที่เห็นได้ในปัจจุบัน

พระทวารกลาง เป็นพระทวารใหญ่สูง ๘ ศอกคืบ กว้าง ๔ ศอกคืบ ตัวบานเป็นบานประดับมุกลายช่องกลม ส่วนพระทวารข้างเป็นทวารรองสูง ๗ ศอก กว้าง ๓ ศอก ๑ คืบ ๑๐ นิ้ว ตัวบานเป็นบานประดับมุกกลายเต็ม ซึ่งบานพระทวารทั้ง ๒ แห่งนี้ สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ประทานความเห็นว่า "เป็นฝีมือที่น่าชมยิ่ง ตั้งใจทำแข่งกับบานที่ทำครั้งแผ่นดินพระเจ้าบรมโกศ ซึ่งอยู่ที่วิหารยอด"

ภายในพระอุโบสถได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามตั้งแต่เพดานถึงพื้น กลางห้องประดิษฐานพระแก้วมรกตในบุษบกทองคำพร้อมด้วยพระพุทธรูปสำคัญมากมาย

ข้อแนะนำในการเที่ยวที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
- แต่งกายให้สุภาพ ห้ามสวมเสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น กางเกงสามส่วน
- ไม่ควรใช้แฟลชในการถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พระระเบียง เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับภาพจิตกรรมได้
- ภายในอาคารอื่นทั้งหมดโดยเฉพาะพระอุโบสถ ห้ามถ่ายภาพอย่างเด็ดขาด ฝ่าฝืนมีโทษปรับ และยึดสื่อบันทึก

ไม่ผิดหวังหากท่านเก็บวัดพระแก้วเป็นหนึ่งในทัวร์ของท่านที่จะเที่ยวทำบุญวันออกพรรษานี้ไปกับความงามของสถานที่แห่งนี้อีกอย่างเป็นวัดที่อยู่ใจกลาง กรุงเทพฯเดินทางไปมาสะดวกสบายไม่ไกลมีรถไปมาตลอด

 เอาแผนที่ไปวัดพระแก้วมาฝากกัน
 
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
Read More


วัดใหม่จันทาราม วันออกพรรษานี้เจอกัน

วันออกพรรษานี้เที่ยววัดไหนดี?

เป็นคำถามที่หลายคนคงจะกำลังหาคำตอบเพราะว่าใกล้เข้ามากันแล้วกันประเพณีหนึ่งประเพณีที่สำคัยเป็นอย่างมาของชาวพุทธของเรานั้นคือประเพณีการทำบุญวันออกพรรษา 
วัดใหม่จันทาราม ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมที่น่าชม แม้จะทรุดโทรมไปบ้าง แต่ก็ยังคงได้เห็นการเขียนภาพจิตรกรรมซึ่งสัมพันธ์กับพระพุทธรูปประธานอันแสดงถึงวิธีคิดอันแยบคายของช่างเขียนโบราณ


ที่ตั้ง เทศบาลเมืองอุทัยฯ ถ.ณรงค์วิถี ต.อุทัยใหม่ อ.เมืองอุทัยฯ

รถยนต์ส่วนตัว จากห้าแยกวิทยุใช้ ถ.ศรีอุทัยไปทางศาลากลางจังหวัดจนถึงแยกขวามือเข้า ถ.ณรงค์วิถี ให้เลี้ยวเข้าไปผ่านวัดธรรมโฆษกไปเล็กน้อย วัดอยู่ทางขวามือ

รถประจำทาง ขึ้นรถสายรอบเมือง

ประวัติ เดิมชื่อวัดเพนียด เป็นวัดร้าง ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 ช่วงต้นรัชกาลที่ 6 มีการบูรณปฎิสังขรณ์วัดและเปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหม่จันทาราม ชาวบ้านนิยมเรียกว่าวัดใหม่

สิ่งน่าสนใจ
โบสถ์ อาคารโบสถ์มีลักษณะคล้ายเรือ ส่วนหน้าเชิดขึ้นหน้าบันโบสถ์ได้รับอิทธิพลศิลปะจีนโดยตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบเป็นลายเครือเถา เสารองรับชายคาด้านหน้าเป็นเสาแปดเหลี่ยม กรอบประตูหน้าต่างเป็นซุ้มโค้งแบบสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมที่นิยมในช่วงรัชกาลที่ 4 และ 5

ภาพจิตรกรรมดอกมณฑารพ ชาวพุทธเชื่อว่าดอกมณฑารพเป็นต้นไม้ในเมืองสวรรค์ บางคนก็เรียกว่าดอกมณฑา มณฑาเป็นไม้ต้น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Talauma candollei BI. ในวงศ์ Magnoliaceae ลักษณะใบใหญ่ มีดอกสีเหลืองนวล กลิ่นหอม ภาพจิตรกรรมดอกมณฑารพเกี่ยวโยงกับพระประธานในโบสถ์ซึ่งแปลกแตกต่างจ่ากวัดอื่นตรงที่เป็นพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพานแทนที่จะเป็นพระพุทธรูปปามารวิชัย ด้วยเหตุนี้ช่างจึงเขียนภาพบนผนังโบสถ์ด้านหลังพระประธานเป็นภาพดอกมณฑารพเต็มทั้งผนัง ตามพุทธประวัติ ดอกมณฑารพนี้จะร่วงลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เมือพระพุทธองค์ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน จิตรกรรมบนผนังอีกสามด้านก็เป็นภาพอันเกี่ยวเนื่องกับการเสด็จสู่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้าเช่นเดียวกัน เช่นภาพพระมหากัสสปะ เทวดา และเหล่าอาชีวก นักบวชเปลือยกายเมื่อครั้งพุทธกาล เดินถือดอกมณฑารพมาเคารพพระบรมศพพระพุทธองค์เป็นต้น

เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวสำหรับท่านที่ชอบเที่ยววัด และสำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่ทำทุญวันออกพรรษาในปีนี้ พลาดไม่ได้เลย บางท่านอาจจะกำลังหาวัดที่จะทำบุญ9วัด กันอยู่ อันนี้ก็ขอแนะนำเลย
Read More


วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

ออกพรรษาปีนี้มีที่เที่ยวกันยัง

วันออกพรรษานี้มีที่เที่ยวกันหรือยัง

วันนี้ผมเอาที่เที่ยวในวันออกพรรษามาให้เพื่อน ๆที่ติดตาม blog ผมให้อ่านกันครับ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงในชะอำและหัวหิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครหลายท่านอยากไปเป็นอย่างมาก สำหรับท่านที่ทำบุญวันออกพรรษาเสร็จแล้วไม่รู้จะไปเที่ยวไหนเราขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชะอพกันเลย 

ประเพณีการทำบุญวันออกพรรษา

ประวัติของความเป็นมาในวันออกพรรษาผมได้เขียนไว้ปล้วนะครับที่เว็บของผมเอง http://xn--12cx3ajd1apwa9a1a7ba7ckbm0hqt.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%B2/ 
ลิงค์อาจจะดูมั่ว ๆ ไปหน่อยแต่ลองเข้าดูได้เลยนะครับ หรืออาจจะลองหาดูจากที่อื่นก็ได้นะครับ

สถานที่ท่องเที่ยววันออกพรรษา


1. เดอะ เวเนเซีย หัวหิน แหล่งท่องเที่ยวที่สร้างออกมาให้คล้ายคลึงกับเมืองเวนิส เมืองสุดแสนโรแมนติกของประเทศอิตาลี เดอะ เวเนเซีย หัวหิน ตั้งอยู่ระหว่างทางจากชะอำไปหัวหิน ติดถนนใหญ่มองเห็นได้ง่าย ใครยังไม่เคยไปต้องลองไปสักครั้งนะครับ



2.ชายหาดชะอำ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังประจำเมืองเพชร เป็นชายหาดที่สวยงาม ถนนเลียบชายหาดทรายเรียงรายไปด้วยแนวต้นสน นักท่องเที่ยวมาแล้วสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นน้ำทะเลใส ซื้อของกินในราคาไม่แพง ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้ามาหาบขายตลอดเวลา มีเตียงผ้าให้นั่งนอนเล่นยาวตลอดแนวชายหาดหาด เต็มไปด้วยที่พักมากมายหลายระดับให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้ ทั้งแบบราคาย่อมเยาว์ไปจนถึงที่พักหรูราคาแพง หรืออยากออกกำลังกายสนุกๆ ก็เช่าจักรยานปั่นกินลมชมวิวไปตามถนนเลียบชายหาด หรือจะลองขี่ม้าที่มีคนนำมาไว้บริการก็ยังได้ คิดดูสิว่าจะสนุกแค่ไหน



3.ซานโตรินี พาร์ค ชะอำ เป็นแหล่งช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ย่านหัวหิน-ชะอำ ที่มาพร้อมสโลแกน "Amused Shopping Experience" หรือ "สีสันใหม่แห่งประสบการณ์ความสนุก" มีแหล่งช้อปปิ้งและท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ให่ทุกคนได้ชม ชิม ชอป แบบจุใจ พร้อมสนุกสุดมันส์ กับเครื่องเล่นมากมาย ที่ช่วยเติมเต็มสีสันให้กับชีวิต



4.สวิส ชีพ ฟาร์ม กำลองบรรยากาศแบบยูโรคันทรีของประเทศสวิสเซอร์แลนด์มาไว้ในเมืองไทย ซึ่งเป็นฟาร์มแกะแห่งแรกของ อ.ชะอำ ที่เปิดบริการนั่งรถม้าเที่ยวชมบรรยากาศของทุ่งหญ้า และให้อาหารแกะแบบใกล้ชิด อีกทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาโอบล้อมไว้เป็นฉากหลัง ให้ได้ถ่ายภาพสวยๆ กลับบ้านไปอวดเพื่อนๆ 



5.พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง หากคุณเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวชมสถานที่สวยงามเชิงประวัติศาสตร์ ขอแนะนำพระราชวังที่มีสีหวานที่สุด และมีจักรยานให้เช่าขี่ชมรอบๆ ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลแสนเย็นสบาย (เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.00 -16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ เวลา 08.30-16.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท) 



6.ชายหาดหัวหิน เสน่ห์ของหัวหินย่อมหนีไม่พ้นหาดหัวหินหาดที่มีน้ำทะเลสะอาดและหาดทรายละเอียด มีความลาดชันพอเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของหาดหัวหิน มีความแตกต่างจากเมืองชายทะเลอื่นๆ ก็คือบรรยากาศของเมืองยังคงกลิ่นอายของยุคสมัยในอดีตที่มีมนต์ขลังไม่เสื่อมคลาย เช่น การรักษาสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ยังคงคุณค่าและสืบทอดประวัติศาสตร์ในอดีตได้เป็นอย่างดี



7.ตลาดน้ำหัวหิน เป็นตลาดที่ออกแนวย้อนยุค ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อของกิน ของแต่งบ้าน เสื้อผ้า ของที่ระลึก ฯลฯ มีน้ำพุ และเรือลำใหญ่ พร้อมป้ายชื่อ ตลาดน้ำหัวหิน เป็นมุมที่คนชอบมาถ่ายรูปกันเพื่อเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาที่นี่แล้ว



8.ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม ย้อนวันวานบรรยากาศตลาดน้ำที่กว้างใหญ่ และสื่อเอกลักษณ์ของความเป็นหัวหิน ภายในมีสินค้าหลากหลายสไตล์ให้เลือกช้อปทั้งงานโอทอป งานไอเดียเก๋ๆ ของที่ระลึกน่ารักจากเมืองหัวหิน พร้อมมุมเก๋ๆ ให้เก็บภาพประทับใจมากมาย หรือหากรู้สึกหิวที่นี่มีก็มีของกินอร่อยๆ ให้เลือกชิมแบบละลานตา และสนุกไปกับกิจกรรมนั่งรถไฟเที่ยว ไปรอบๆ ตลาดน้ำก็สนุกเพลิดเพลินดีไม่หยอกนะ



9.ตลาดเพลินวาน จากจุดเริ่มต้นที่มาจากความรักและคิดถึงหัวหินในวันก่อน เพลินวานจึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางจุดหมายการเดินทางแห่งใหม่ของคนหัวหินและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เพลินวานคือ... "ศูนย์รวมความสุข สถานที่... หยุดเวลาในอดีตไว้ เพื่อเล่าขานเรื่องราวมากมายของวิถีหัวหินกาลก่อนสู่กาลปัจจุบัน" นอกจากนี้ยังจะได้เพลินตากับแฟชั่นเปรี้ยวๆ วันวาน ห้องเสื้อไฉไลหอมกลิ่นไอ รสละมุนของ กาแฟคลาสสิค และข้าวอุ่น แกงร้อน อาหารเลื่องชื่อตำรับหัวหิน



10.สถานีรถไฟหัวหิน สถานีรถไฟเก่าแก่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย และหนึ่งในเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้นั่นคือ พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ ซึ่งเป็นพลับพลาจัตุรมุข ที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ ร.6 หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของชาวเมืองหัวหิน และเป็นจุดถ่ายรูปสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนเมืองนี้ จะแวะมาถ่ายรูปกับป้ายสถานีรถไฟเป็นที่ระลึก

10สถานที่ท่องเที่ยวในวันออกพรรษาเป็นอย่างไรบ้างครับ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของสถานที่ท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของชะอำเลยทีเดียว

Read More


วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

ภาพสวยๆจากวัดพระแก้ว

วันออกพรรษานี้กำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวกันอยู่ไหม?

วันนี้เลยหาสถานที่ทำบุญวันออกพรรษามาฝากเพื่อน ๆ กัน แต่ต้องบอกก่อนว่าวัดพระแก้วไม่ได้เหมือนวัดทั่ว ๆ ไปที่เราเห็นนะครับ เนื่องจากอยู่ในสำนักราชวัง จึงทำให้เราต้องสำรวมในการเข้าชมสถานที่แห่งนี้

จริง ๆ จะว่าไปวัดพระแก้วอาจจะไม่ใช่สถานที่ทำบุญวันออกพรรษาเลยทีเดียวเนื่องจากคนส่วนมากที่ไปวัดพระแก้วคือการไปเที่ยวและเก็บภาพสวยๆไว้ในความทรงจำ






เป็นอย่างไรกันบ้าง ท่านที่กำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวทำบุญวันออกพรรษาปีนี้ลองหาดูใกล้ๆวัดพระแก้วก็ไม่แล้วเลยทีเดียวนะคับ เพราะว่าต้องบอกเลย แถวนั้นสถานที่ท่องเที่ยวมีมากมายเลยทีเดียว วันออกพรรษาแน่นอนว่าต้องมีกิจกรรมอะไรสนุกๆอีกมากมายเลย 

Read More


วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

พาเที่ยวเกาะวันออกพรรษานี้

วันออกพรรษานี้ปีนี้มีหลายท่านกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวกันวันนี้เราขอแนะนำทะเลสวยๆ หลังจากที่เราทำบุญวันออกพรรษาแล้ว แน่นอนว่าต้องการหาที่เที่ยว

5 สถานที่ท่องเที่ยววันออกพรรษา

สถานที่แรกกันเลยหลังจากทำบุญวันออกพรรษาเสร็จแล้วไปกันที่เกาะหลีเป๊ะ  หรือเรียกกันว่า "มัลดีฟส์เมืองไทย" เพราะสีของน้ำทะเลที่ใส รอบเกาะเต็มไปด้วยปะการังอันสมบูรณ์ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายขาวละเอียด เป็นศูนย์กลางของความสะดวกสบายมากมายทั้งที่พัก ที่กิน ที่เที่ยวยามค่ำคืนครบครัน บนเกาะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านกลุ่มชาวเลในอดีตที่มีการตั้งชุมชนนานกว่า 100 ปี อีกด้วย


สถานที่ท่องเที่ยววันออกพรรษากับสถานที่ที่2เกาะหินงาม อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอาดัง บริเวณชายหาดเต็มไปด้วยหินสีดำ มีลักษณะกลมมน ไม่มีเหลี่ยม เมื่อยามต้องแสงแดดก็สะท้อนความแวววาวเงางามคล้ายกับมีพลังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามายลความงามเป็นอย่างมาก


สำหรับเกาะลันตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยววันออกพรรษาที่มีชื่อเสียง มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยที่สวยงามจำนวนมาก อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามที่ควรต้องไปสัมผัสสักครั้ง


ทำบุญวันออกพรรษาเที่ยวเกาะล้าน เป็นเกาะในอ่าวไทย เขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ตั้งอยู่แนบขนานกับหาดพัทยา ห่างจากชายฝั่งเมืองพัทยาเพียง 7 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่นักท่องเที่ยวชอบมาเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เรือลาก เรือสกี ดำน้ำดูปะการัง และที่สำคัญเป้นเกาะที่เดินทางไปได้สะดวก จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง



อีกหนึ่งสถานที่สำหรับวันออกพรรษานี้เกาะช้าง อยู่ในจังหวัดตราด ชายแดนภาคตะวันออกของประเทศ เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ในทะเลอ่าวไทย และเป็นเกาะที่ใหญ่อันดับ 2 ในประเทศรองจากเกาะภูเก็ตนั่นเอง ดูจากลักษณะการเรียงตัวกันของเกาะน้อยใหญ่กว่า 52 เกาะ เหมือนรูปโขลงช้างเดินเรียงกันทำให้หมู่เกาะนี้มีชื่อว่า "เกาะช้าง"


พูดคุยการทำบุญวันออกพรรษา

สำหรับท่านที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยววันหยุดวันออกพรรษานี้ ทางเว็บเรามีไว้ให้มากมายให้เลือกกันเลยทีเดียวแต่การทำบุญวันออกพรรษาแน่นอนว่าเช้ามาต้องออกมาทำบุญกันก่อนในวันออกพรรษาต่อด้วยการหาสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งหลายท่านอาจจะเป็นวันที่ได้พบปะครอบครัวในวันนี้เลยทีเดียว
Read More


วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

5 ที่เที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ วันออกพรรษานี้

สวัสดีครับวันนี้มาคุยกันเรื่องของวันออกพรรษากันดีกว่าว่าเพื่อนๆมีที่เที่ยวที่ไหนบ้างกัน วันนี้ผมขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยววันออกพรรษาที่เชื่อได้เลยว่าหลายท่านยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ามี

สถานที่ท่องเที่ยววันออกพรรษา

1.ชมไร่ต้นยาสูบ จากทางหลวงหมายเลข 21 วิ่งไปสู่ อ.หล่มสัก หนึ่งในแหล่งปลูกต้นยาสูบแหล่งใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ระหว่างทางเราได้เห็นไร่ยาสูบเป็นระยะ ซึ่งมองเผินๆ ช่างคล้ายไร่กระหล่ำปลี ดูเขียวขจีสดชื่นตลอดทาง


2.พระธาตุผาซ่อนแก้ว ชมความงดงามของเดจีย์สีเหลืองทองอร่ามที่เห็นโดดเด่นจับตามาแต่ไกล มาที่นี่นอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศอันแสนเงียบสงบของสถานที่ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมแล้ว เรายังได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระธาตุเพื่อเป็นสิริมงคลของชีวิตอีกด้วย


3.ไร่กำนันจุล เลือกซื้อของฝากสินค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมากมาย อาทิ สละ มะขามหวาน ฯลฯ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ แบบชิลล์ๆ

4.ไร่กะหล่ำปลี เต็มไปหมดทุกภูเขา เราสามารถเดินไปดูเก็บกะหล่ำปลี ซึ่งก็เป็นชาวเขาเผ่าม้ง จะขอซื้อมากินก็ได้ราคาแสนถูกและสดกรอบเหนือคำบรรยาย



5.ภูทับเบิก สัมผัสทะเลหมอกบนยอดภูเขา ชื่นชมความเขียวขจีของพรรณไม้ สูดอากาศบริสุทธิ์ และเฝ้ามองความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและยามเย็น ต้องไม่พลาดที่นี่เลยครับ


เป็นอย่างไรกันบ้างกับสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเที่ยววันออกพรรษานี้ไว้แน่นอนว่าหนึ่งในนี้อาจจะได้ไปอย่างแน่นอน ทิ้งท้ายกันหน่อยกับ Fanpage ขอฝากกันไว้ให้ได้ชมกัน
https://www.facebook.com/tumboonhistory
Read More